กำลังตำรวจเป็นแสนนาย ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลว
พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ แม่ทัพใหญ่ในขณะนั้นสามารถทำองค์กรให้ปลอดจากการแทรกแซงของการเมือง
มีอำนาจสูงสุดพอ ๆ กับผู้บัญชาการทหารบก ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก
เจ้าตัวเล่าว่า หลักการปกครองทำให้ตำรวจอยู่กับร่องกับรอยเป็นตำรวจของประชาชนได้ ต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง “เหมือนปกครองคนในครอบครัวที่โต ๆ กันแล้ว บังคับทำกันได้ยาก ถ้าเราไม่โกงไม่กิน อยู่อย่างเพียงพอ ลูกน้องก็ไม่กล้าโกงกิน”
เขาไปทำงานแต่เช้า กลับบ้านดึกทุกวัน ลูกน้องก็ขยันทำงานไปด้วย
“ตำรวจชั้นผู้น้อย ต้องพยายามดูแลสารทุกข์สุขดิบให้ดี ไม่มีใครอยากเป็นคนโกงเป็นคนชั่ว ถ้ามีกินมีพอเลี้ยงครอบครัว” ตำนานอธิบดีมือปราบมองขาด
ความภูมิใจที่สุดของชีวิตไม่ใช่การได้ขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจที่หลายคนใฝ่ฝัน พล.ต.อ.ณรงค์บอกว่า เมื่อเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ถือว่า ทำตามหน้าที่ ทำให้ดีที่สุดเต็มความสามารถ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
“ผมรักการทำงาน ถือการทำงานเป็นหน้าที่ วันที่เกษียณก็ไม่ยึดติดในตำแหน่งหรืออำนาจ”
หลังจากนั้นนักเมืองในรัฐบาลชวนให้เล่นการเมืองเสนอให้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่หมายถึงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล แต่ พล.ต.อ.ณรงค์ปฏิเสธ และให้เหตุผล “ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมทำงานเป็นตำรวจมาตลอดชีวิต ผมไม่ใช่คนร่ำรวย ผมไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อผมเกษียณอายุจากอธิบดีกรมตำรวจ ผมคิดว่า ผมได้ทำหน้าที่ผมเรียบร้อยแล้ว ผมพอแล้ว”
ที่สำคัญมีประสบการณ์จากผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในอดีตเป็นข้าราชการระดับสูง สร้างชื่อเสียงจนเกิดความภูมิใจต่าง ๆ พอหันเข้าไปสู่แวดวงการเมืองต้องเสียอนาคต ถูกใส่ร้ายป้ายสีต่าง ๆ นานา
อธิบดีกรมปทุมวันทุ่มเทชีวิตให้การกับทำงานเป็น ยิ่งเป็นระดับนักบริหาร ต้องยิ่งเป็นตัวอย่าง เป็นแม่แบบทั้งด้านวินัย ความประพฤติ และความเป็นคนใจซื่อมือสะอาด เสียสละอย่างใหญ่หลวง สละความสุขความสบายของชีวิตส่วนตัวทุ่มเทกับงาน เพราะคิดว่าต้องรับผิดชอบ
วางปรัชญาไว้ว่า “การทำงานหนัก คือ ดอกไม้ประดับชีวิต”
ยืนยันด้วยว่า พวกผลประโยชน์ พวกสถานบริการไม่มีสิทธิเข้าบ้าน และเชื่อมั่นภูมิใจในพวกรุ่นพี่ เพื่อนและรุ่นน้องไม่มีใครอิจฉาที่ขึ้นเป็นอธิบดีกรมตำรวจ เนื่องจากเพราะการทุ่มแททำงาน ลุยงานหามรุ่งหามค่ำ 3 วัน 3 คืนถึงล้มคว่ำหน้าเตียงก็เคยมาแล้ว
ตลอดระยะเวลา 5 ปีบน เก้าอี้พิทักษ์ 1 พล.ต.อ.ณรงค์พยายามทำให้ภาพของตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ถูกตราหน้าว่า ตำรวจมัวแต่รีดไถ รังแกประชาชน สิ่งเหล่านี้ต้องสำเหนียกและสำนึกตลอดเวลา
“การเป็นตำรวจที่ดีจะต้องมีความยุติธรรม ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย ยึดหลักความถูกต้อง การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจะสามารถเป็นเกราะป้องกันตัว”
ทำตำรวจให้เป็นที่ศรัทธาของผู้คนและประชาชนทั่วทั้งประเทศ