พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รองผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.เฉลิมเกียรติ สมบัติปัน รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุม น.ส.วรนุช ละผิว อายุ 25 ปี ชาวจ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 324/2567 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ขณะที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ที่คลินิกได้มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน จะได้รับเงินภาษีคืนจากกรมที่ดิน ก่อนหลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชั่นกรมที่ดินในโทรศัพท์มือถือ พร้อมให้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายพบว่า เงินถูกโอนออกจากบัญชีไปยังบัญชีของน.ส.วรนุช ผู้ต้องหารายนี้ เป็นจำนวน 6,300,000 บาท จึงรีบติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีปลายทางและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจนนำมาสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่าประมาณปี 2566 ได้มีเพื่อนผู้ติดต่อชักชวนให้ไปเปิดบัญชีด้วยกัน โดยจะได้รับค่าตอบเเทนในการเปิดบัญชีครั้งล่ะ 500 บาท/ต่อครั้ง ตนจึงทำการเปิดบัญชีไปทั้งสิ้น 3 บัญชี โดยกลุ่มเพื่อนได้บอกว่าจะนำบัญชีไปลงทุน และจะได้รับผลตอบแทนในภายหลัง เเละได้นำเงินค่าจ้างดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก่อนจะถูกจับกุมในครั้งนี้ ตนได้ถูกจับกุมดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้วถึง 2 คดี และเพิ่งถูกปล่อยตัวมาเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็น จนท.กรมที่ดิน สำรวจผู้เสียภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง ย้ำ แจ้งผ่านหน้าเว็บไซต์แล้ว ไม่มีโทรหา ไม่ขอแอดไลน์ ไม่มีหน้าที่เก็บภาษีฯ แนะ 5 ลักษณะกลโกงและการหลอกลวง ของกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมที่ดิน มีดังนี้ มีบุคคลปลอมหนังสือราชการและแจ้งให้ผู้รับข้อความเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์และเฟสบุค รวมไปถึงสื่อโซเชียลมีเดียอื่น สร้างเว็บไซต์กรมที่ดินปลอม ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใช้บริการ โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายในรูปแบบต่างกัน เช่น เรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดิน เรื่องการรังวัดที่ดิน ฯลฯ โดยจะหลอกให้เพิ่มเพื่อนผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และให้กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือสแกนใบหน้าเพื่อนำข้อมูลของผู้เสียหายไปใช้ในทางมิชอบ
