เยียวยาคืนสิทธิ

 

ถูกกระแสข่าวอื่นกลบเรื่องเข้ากลีบเมฆ

ทั้งที่ตอนแรกที่ตกเป็นเรื่องเป็นราวโด่งดังจนตัวเองต้องมลทินมัวหมองถูกเด้งจากเก้าอี้นายพลชายฝั่ง ทะเลภาคตะวันออกกระเด็นกระดอน “เข้ากรุ”

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ตัดสินใจร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ

กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2566 จาก ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจสันติบาลไปดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 1  เห็นว่าคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปใน “เชิงลงโทษ” และทำให้ได้รับผลกระทบเสียสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ในตำแหน่งเดิม

ต้องถูกกำหนดให้ดำรงตำแหน่งในกลุ่มสายงานอำนอำนวยการ ทั้งที่ผู้ร้องทุกข์มีประสบการณ์ในสายงานสืบสวนและป้องกันปราบปราม ประมาณ 21 ปี และดำรงตำแหน่งในสายงานอำนวยการเพียงประม่าณ 6  ปี

เดิมผู้ร้องทุกข์ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ต่อมามีเหตุเป็นที่สงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ราชการและกระทำความผิดทางวินัย หรืออาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้มีคำส่งไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม

หลังจากนั้นตำรวรวจภูธรภาค 2  แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ร้องทุกข์กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง กล่าวหาว่าผู้ร้องทุกข์กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เนื่องจากพบผู้กระทำผิดฐานแจ้งความเท็จแล้วนำบัญชีรายชื่อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรให้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้น และข้อมูลเสนอแต่งตั้งตั้งของส่วนราชการต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาและเสนอไปยังคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

ทว่าในรายของผู้ร้องทุกข์ ข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นว่า กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นหน่วยต้นสังกัดไม่ได้เสนอข้อมูลคัดเลือกแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ในรูปของคณะกรรมการจัดทำข้อมูลเสนอแต่งตั้ง

แต่การคัดเลือกแต่งตั้งดำเนินการกันเพียงในขั้นของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเท่านั้น ไม่ได้ส่งให้ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลดำเนินการจัดทำข้อมูลเสนอแต่งตั้งตั้งระดับกองบัญชาการดำรวจสันติบาล ต้องพิจารณาในรูปของคณะกรรมการเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามขั้นนตอนที่กฎหมายกำหนดไว้

การดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งในรายของผู้ร้องทุกข์ ไม่เป็นไปตามนัย มาตรา 78 (4 ) และข้อกำหนดว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พุทธศักราช 2566

นอกจากนั้น การใช้ดุลยพินิจคัดเลือกแต่งตั้งยังเป็นไปโดยไม่เหมาะสม เนื่องจากเดิมขณะผู้ร้องทุกข์ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรตำรวจฎธรจังหวัดชลบุรี ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามคำสั่ง ตำรวจภูธรภาค 2  เป็นเหตุให้ผู้ร้องทุกข์ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และถูกแต่งตั้งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการประจำกองบัญชากาการตำรวจสันติบาลตามลำดับ

ท้ายที่สุดผลการสอบสวนทางวินัยปรากฏว่าผู้ร้องทุกข์ไม่ได้กระทำ ตามที่ถูกกล่าวหา กองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้มีให้ยุติเรื่อง

หากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจจะมีการคัดเลือกแต่งตั้งเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้ร้องทุกข์ในการพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเองในชั้นแรกก็ได้มีความเห็นไว้ด้วยว่าผู้ร้องทุกข์มีกรณีเรื่องพัวพันกับการสลับตัวผู้ต้องหาซึ่งคดีสิ้นสุดแล้ว

“ไม่มีความผิด”

ควรมีสิทธิ์ให้กลับไปอยู่ตำรวจภูธรจังหวัด การคัดเลือกแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ควรดำเนินการในลักษณะเยียวยาให้ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมตามที่ผู้ร้องทุกข์กล่าวอ้างหรือร้องขอ

คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจเห็นว่าคำร้องทุกข์ของผู้ร้องทุกข์ฟังขึ้นวินิจฉัยให้เพิกถอนการคัดเลือกแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์และให้เยียวยาผู้ร้องทุกข์ดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งในวาระการแต่งตั้งปี 2567 ให้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บังคับการที่มีอำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบในระดับที่เทียบเท่ากับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี

คืนสิทธิเต็มรูปแบบ

RELATED ARTICLES