พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี ,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการให้ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนคนำกำลังจับกุมนายพิสิษฐ์ หรืออชิ ชัยเกียรติศักดิ์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น ยี่ห้อ CZ รุ่น P-10C, ซองกระสุนปืน บรรจุกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 8 นัด, รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แลนเซอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.602/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2567 ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ซอยเพชรเกษม 116 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่ผู้ต้องหาเพิ่งย้ายหลบหนีมาเช่าพักอยู่
ทั้งนี้ทราบว่า กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่า เมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ถูกคนร้ายที่เคยเป็นคู่อริกันก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าไม้กั้น รปภ.บริเวณหน้าหมู่บ้านเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้เสียหายกลางงานวันเกิด เป็นเหตุให้ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมี จำนวน 2 คน คือ นายพิสิษฐ์ หรืออชิ อายุ 19 ปี มือยิง และนายสุรศักดิ์ หรือต๊ะ อายุ 21 ปี คนขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับไว้
แต่ผ่านมากว่า 2 เดือน ยังไม่สามารถสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ผู้เสียหายจึงร้องเรียนผ่านเพจ ” สืบนครบาล IDMB ” เพื่อให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะมือยิงให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายและครอบครัวเกรงกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก กระทั่งทราบว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 116 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ จึงนำกำลังจับกุมตัวได้ดังกล่าวพร้อมของกลาง
อาวุธปืนสั้น ยี่ห้อ CZ รุ่น P-10C พร้อมซองกระสุนปืน บรรจุกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 8 นัด, รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แลนเซอร์, กล่องเก็บอาวุธปืนสีดำ จำนวน 1 กล่อง
สอบสวน นายพิสิษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นดีเจอิสระ ในวันเกิดเหตุตนรับสารภาพว่าตนเป็นคนใช้อาวุธปืนที่ตนซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ในราคากระบอกละ 30,000 บาท มาใช้ยิงคู่อริซึ่งมีปากเสียงกันทางโซเชียลกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีนายต๊ะ เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ตน โดยอาศัยจังหวะที่ไม้กั้นทางออกหมู่บ้านจัดสรร แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ เปิดขึ้นตนและนายต๊ะ จึงขับขี่ซ้อนรถจักรยานต์เข้าไปก่อเหตุ หลังก่อเหตุตนและนายต๊ะ ได้แยกย้ายกันหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายพิสิษฐ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และได้ประสานแจ้งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า โซเชียลมีเดียช่วยย่อโลกให้เล็กลง ติดต่อกันง่าย ใกล้ชิดกันมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ไว โดยกลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากวุฒิภาวะ การใช้อารมณ์ บางครั้งทำให้ต้องลงเอยกับปัญหาความบาดหมาง ความขัดแย้ง ทะเลาะกัน ท้าทายกันในโซเชียล อวดว่าตนเองเก่ง ตัวข้าแน่กว่า นำไปสู่การใช้ความรุนแรง จนทำให้การบาดเจ็บ ล้มตายก็มี เสียทั้งเงินและอนาคต ถูกจับติดคุกหลายปี ฉะนั้นควรต้องรู้จักให้อภัย อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล การป้องกันที่ดีนั้น พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยการให้ความรัก ให้เวลา ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ปลูกฝังและวางรากฐานทางคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก มีสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว
