นิตยสาร COP’S ฉบับเดือนพฤษภาคม 2561
พบภารกิจ “สยบริปูสะท้าน” ปฏิบัติการพิเศษของหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม ภายใต้หลักสูตรอบรมตำรวจในภารกิจลับสุดยอดในการต่อต้านการก่อการร้ายที่หนักและดีที่สุดในประเทศไทย มี พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม นำนักเรียนนายสิบตำรวจรุ่นใหม่ 150 นายที่สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าร่วมฝึกอบรมเสริมศักยภาพการทำงานในค่ายพลร่มนเรศวร กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นเวลา 4 เดือนครึ่ง
เพื่อให้พวกเขาก้าวมาเป็น “นักรบติดอาร์ม” สร้างศักยภาพให้เป็นหน่วย S.W.A.T. เมืองไทย เต็มรูปแบบ
“เราไม่ได้สอนให้คุณเป็นซุปเปอร์แมนยิงไม่เข้า หลักสูตรนี้สอนให้คุณเอาชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัวที่รัก” พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ย้ำเจตนารมณ์ของการฝึกอย่างเข้มข้นเพื่อนำไปใช้การปฏิบัติในสนามชีวิตจริงอนาคตหลังจบหลักสูตรออกไปแล้ว
ย้อนตำนาน พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ อดีตนักเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย กลายมาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ เข้าร่วมก๊วนทีมมือปราบพระกาฬระดับปรมาจารย์อีสานเหนือ ทำผลงานเข้าตามาสร้างทีมนักสืบรุ่นใหม่ที่กองปราบปราม ยุค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้นำทัพออกคลี่คลายคดีสำคัญทั่วประเทศมากมาย
ขึ้นเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือคนแรก เปิดฉากบู๊แหลกขบวนการค้ายานรกชุมชนคลองเตยกระเจิดกระเจิงราบคาบ ถึงกระนั้นเส้นทางการทำงานกลับเจอมรสุมรุมเร้าจากอำนาจ “ผู้เป็นนาย” ถูกเสนอย้ายไกลปืนเที่ยง ก่อนจะเกษียณราชการตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรถิ่นเกิด
“สิ่งที่ได้ แม้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทำให้บ้านเมืองสงบ ชาวบ้านอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีใครเอาเปรียบทางสังคม อยู่ที่เรา มีคุณธรรมในการทำงานแค่ไหน ถ้าเราไม่มีคุณธรรม เราก็เป็นโจร เป็นโจรกำลังสองเลย” เจ้าตัวฝากแง่คิด
คุยกับ พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำหน้าที่ถวายความปลอดภัย ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตข้าราชการตำรวจ เจ้าตัวยังมีกิจกรรมในยามว่างที่ชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนเทพศิรินทร์ สวมชุดเขียวเหลืองโลดแล่นบนสังเวียนสนามหญ้าเป็นนักกีฬาตัวกลั่นกระทั่งเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 ปัจจุบันตั้ง “ชมรมเพื่อนติ๊ก” ชักชวนผองเพื่อนฟาดแข้งกระชิบมิตรเชื่อมความสามัคคีในหมู่คณะ นอกจากเรียกเหงื่อออกกำลังกายแล้วยังทำกิจกรรมอาสาช่วยเหลือสังคม ระดมทุนการศึกษา หาอุปกรณ์การเรียน และเครื่องกีฬาจำเป็น ไปมอบให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลตามแนวชายแดน
ตระเวนโรงพักไปทำความรู้จัก พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ รักษาศิลป์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสมเด็จ จังหวัด กาฬสินธุ์ ประสบความสำเร็จดีเยี่ยมการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทางไปกลับของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 บริหารงานเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา และชาวบ้านในพื้นที่ สมกับหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
TOP COP’S สุดยอดตำรวจประจำเดือน หมวดฟิล์ม- ร.ต.ท.ณพวิทย์ วชิราปัญญานนท์ รองสารวัตรหนุ่มหน้าใสอนาคตไกล ทายาทคนโต พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ วชิราปัญญานนท์ รองผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร นิติศาสตรบัณฑิตจากรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ แถมมีดีกรีปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม ผ่านอบรมหลักสูตรนายตำรวจสัญญาบัตร รุ่น กอส.41 เจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ พร้อมทำหน้าที่ที่ท้าทายหลากหลายรูปแบบสารพัดมิติ
สัมผัส ผู้หมวดสาวป้ายแดง ร.ต.ต.หญิง นพวรรณเลิศชีวกานต์ อดีตนักเทนนิสเยาวชนโลกปี 2009 แชมป์จูเนียร์วิมเบิลดันหญิงเดี่ยวและคู่ในปีเดียวกัน เพิ่งบรรจุลงเป็นรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ 5 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทิ้งชีวิตนักหวดลูกสักหลาดมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หญิงนักประชาสัมพันธ์เต็มตัว
อ่านเรื่องราวความรักของ คุณบั๋ม-จิรนันท์ เหล่าปิยะสกุล เวดดิ้งแพลนเนอร์สาวสมัยใหม่กับ “สารวัตรปุย” พ.ต.ท.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 1 (ขอนแก่น) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 58 ที่กว่าจะฝ่ากำแพงพ่อตาเปิดประตูวันวิวาห์ ฝ่ายชายที่เป็นอดีตนักร้องคนดังต้องเจอบททดสอบหินมาพอสมควร
“เขาเป็นคนแรกที่บั๋มเลือกที่จะไม่เช็ก เราก็กลัวจี๊ด ไม่อยากรู้อดีต เพราะเราก็เป็นคนมีอดีต เลยเลือกไม่รู้ เรียนรู้ใหม่ดีกว่า มันไม่ได้สำคัญหรอกว่า จะต้อง 1 ปี 2 ปี 5 ปี ถึงต้องมาเป็นแฟนกัน แต่งงานกัน คือบั๋ม ก็ผิดหวังจากความรักมา ไม่ว่าจะเหตุผลจากตัวเอง หรืออะไรต่างๆ แล้วพอมาคุยกันแล้ว มันเรียนรู้ว่า เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ ไม่ต้องเปลี่ยน แต่อันไหนที่เราคิดว่า เป็นข้อที่เปลี่ยนแล้วไม่ใช่แค่ชีวิตคู่ ชีวิตเขาจะดีขึ้นด้วย อันนั้นปรับดีกว่า” เป็นนิยามความรักของเธอ
เปิดอกนักข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ “ปู๊ด”ศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ ผูกพันกับหนังสือพิมพ์และทหารมาเกือบทั้งชีวิต เริ่มทำงานหารายได้พิเศษตั้งแต่มัธยมต้นด้วยการเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ ก่อนย้ายไปอยู่กับพี่ชายที่เป็นทหารอากาศสังกัดกองบิน 1 นครราชสีมา ถึงได้คลุกคลีอยู่ในค่ายทหาร กลับเข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่รามคำแหง และเข้าไปทำงานหนังสือพิมพ์มาตุภูมิ ตำแหน่งแมสเซนเจอร์ แต่ด้วยความเป็นคนขยันใฝ่รู้จึงขยับเป็นฝ่ายศิลป์ และเป็นนักข่าวสายทหาร ผ่านเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารมาหลายยุคเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศมาหลายครั้ง นับเป็นประสบการณ์ที่คนข่าวน้อยรายจะมีโอกาสได้สัมผัสเบื้องหลังอย่างแท้จริง
และเนื้อหาสาระคุณภาพอื่นอีกคับเล่มเช่นเคย
พบกันที่แผงหนังสือซีเอ็ด บุ๊ก และนายอินทร์