พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผู้กำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รองผู้กำกับ (สอบสวน) กองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รองผู้กำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.บุรินทร์ ผูกะปิดถา สารวัตรกองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับนายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน, มิสเตอร์จัสติน อัลเวส ที่ปรึกษาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์, มิสคาริน มัลธัส ที่ปรึกษาตำรวจนิวซีแลนด์ และ มิสเตอร์ลี ยองกอน ผู้ช่วยตำรวจสถานทูตเกาหลี ร่วมกันแถลงผลปิดตำนานกงจู แก๊งหลอกคนไทยไปทำงานประเทศนิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ที่คาดว่ามีผู้เสียหายกว่า 35 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย โดย 5 ราย ในข้อหา “พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 , ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” และ 3 ราย ในข้อหา “พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และฉ้อโกงประชาชน” และสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวน 11 รายการ
พล.ต.ต.ศารุติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ปคม. ได้รับหนังสือร้องทุกข์ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรมการจัดหางาน หลังมีผู้เสียหาย 13 รายเข้าร้องทุกข์ว่ามีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 จากการสืบสวนมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหากระทำการเป็นขบวนการหลอกลวง โดยเริ่มหลอกลวงประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ประมาณปลายเดือน ธ.ค. 66 – ก.ค. 67 โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำตลอดเรื่อยมา ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มแรกจะทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทบังหน้าว่าเป็นบริษัทจัดหางาน เพื่อส่งแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ จากนั้นผู้ต้องหาอีกกลุ่มจะทำการหว่านล้อมและหลอกลวงประชาชนทั่วไปว่า สามารถยื่นขอวีซ่าและจัดหางานที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ได้ เนื่องจากได้รับสิทธิ (โควต้า) จากนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ ให้หาคนไปทำงานประเภทงานเกษตร งานช่างตกแต่ง โรงงานขนมปัง ซึ่งจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการหลอกลวงว่าเคยมีผู้สมัครแล้วได้ไปทำงานจริง โดยนายจ้างและงานทั้งหมดไม่มีอยู่จริง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสารยังพบเอกสารที่ไม่ตรงกับความจริงเช่น มีการหลอกลวงผู้เสียหายว่าได้รับวีซ่าประเภทถาวร และมีการเรียกเก็บค่าบริการเกินราคามาตรฐานบริษัทจัดหางานทั่วไป โดยไม่ได้มีเจตนาจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้ง 13 คน ไปทำงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ได้จริง และยังพบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้แผนพฤติกรรมรูปแบบเดิม สร้างความเสียหายต่อประชาชนผู้ที่ต้องการเดินทางทำงานต่างประเทศและมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 3 ธ.ค. ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนและเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์เมื่อถึงเวลาประมาณ 06.00 น. ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 8 รายบริเวณสถานที่จับกุม บ้านพักในพื้นที่ ปทุมธานี, สมุทรสาคร และกทม. จำนวน 5 แห่ง ก่อนเข้าจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันยังพบข้อมูลว่าบริษัทดังกล่าวได้ลักลอบ แอบอ้างเป็นตัวแทนจัดหาแรงงานไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยพบเอกสารของผู้เสียหายในพื้นที่จ.มุกดาหาร กว่า 450 คน ซึ่งกรณีผู้เสียหายจะต้องชำระเงินขั้นแรก 5,000 บาท และเสียเงินก้อนอีกประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนหลักแสนบาท
จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 8 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหายืนยันว่าสามารถดำเนินการจัดหางานให้กลุ่มแรงงานได้จริงแต่ขณะนี้ติดขั้นตอนการยื่นวีซ่า จึงทำให้กระบวนการล่าช้า