จากการณีที่เจ้าหน้าที่ สตม. จับ 5 แก๊งคอลฯยากุซ่า หลังได้รับประสานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ว่ามีกลุ่มคนร้ายลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น เป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยหลอกลวงว่าจะได้รับเงินประกันสุขภาพคืน
ล่าสุด พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญลักษณ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนาถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง สั่งการให้ ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและ เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ช่วยรารการรองผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผุ้กำกับกลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางในการดำเนินคดีและขยายผล กรณีจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่าญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นนำโดยผู้ช่วยทูตตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย และหัวหน้าตำรวจญี่ปุ่น ที่รับผิดชอบคดีนี้
ภายหลังการประชุม ผู้สือข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดูว่าชาวญี่ปุ่นทั้ง 5 คนได้กระทำความผิดอื่นใดในประเทศไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ถูกจับกุมในระดับหัวหน้าจำนวน 2 คน น่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดฐานเปิดบริษัทนอมินี ส่วนอีกสามคนที่ทำหน้าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ตำรวจญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานในการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เพื่อรับตัวกลับไปดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น ขณะนี้ สตม. จึงต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งห้าคนไว้ก่อนเนื่องจากถือว่าเป็นภัยต่อประเทศไทยตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12
