ฉากของชีวิตจอมยุทธ์

 

บ่อยครั้งเส้นทางเดินของแต่ละคนแตกต่างกัน

บ้างก็โทษโชคชะตา ฟ้าลิขิต เขียนขีดใส่ซองมาให้เรียบร้อยแล้ว

เป็นเรื่องของวิบากกรรมกำหนดจริงหรือ

นับเป็นเวลา 30 ปีพอดีที่ก้าวออกจากรั้วสามพราน นายตำรวจคนหนึ่งเดินทางถึงเส้นชัยก่อนใครในรุ่น

กลายเป็นชีวิตเปื้อนฝุ่นเลอะรอยมลทินที่ตัวเองไม่เคยวาดหวัง

ก้าวสู่รั้วโรงเรียนเตรียมทหารไปต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้รับการคัดเลือกเป็นนักเรียนปกครองบังคับบัญชาตั้งแต่อยู่ชั้นปี 1 ด้วยความที่ระเบียบวินัยแข็งขันสามารถเป็น “ต้นแบบ” ให้เพื่อนร่วมรุ่นและน้องที่คลานตามมาเป็น “สมบัติรุ่น”

ประเดิมชีวิตพนักงานสอบสวนนครบาล จับพลัดจับผลูเข้าไปในโรงเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษ รวมดาวฤกษ์วัยกะเตาะ 30 นายเพื่อเป็นทายาทนักสืบรุ่นใหม่ของเมืองหลวง

หลักสูตรดีที่สุดขององค์กรตำรวจในขณะนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

เขาเลือกลงทำงานนอกเครื่องแบบสังกัดกองกำกับสืบสวนสอบสวนใจกลางเมือง ตามรอยจับตาย “นักฆ่าหน้าหยก” ฆาตกรรมหญิงสาวกันเป็นว่าเล่น ตามด้วย “หัวโจก” แก๊งโจรกรรมรถรายสำคัญ จากนั้นขึ้นสารวัตรข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นมือเป็นไม้อยู่กองสืบสวนฝั่งธนบุรี

วิสามัญฆาตกรรม “พ่อค้ายาบ้า” ตัวฉกาจเป็นผีเฝ้าลานจอดรถผับดัง

ขยับเป็นรองผู้กำกับคืนถิ่นเก่าเก็บกวาด “หัวหน้าแก๊งยกเซฟ” ส่งไปเกิดใหม่ย่านมักกะสัน

 เกือบทุกคดีเขามีส่วนอยู่เบื้องหลังสืบสวนสอบสวนด้วยการนำเทคโนโลยีไปผสมผสานการสืบสวนแบบเดินดิน

ถือเป็นนายตำรวจฝีมือดีระดับต้นของยุทธจักร

แต่แล้วโชคชะตาฟ้าลิขิตเขียนขีดเส้นชีวิตจริงหรือ

เมื่อต้องเผชิญอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของ “นายพลใหญ่” อาละวาดไล่ต้อนราดน้ำมันบนกองไฟร้อนเผา “ลูกน้องต่างค่าย” ทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตต่อหน้าที่

ผิดวินัยร้ายแรง

ถูกศาลพิพากษาเข้าไปจองจำอยู่ในคุกนาน 1 ปี

หมดอิสรภาพเที่ยวนั้น ทุกอย่างพังหมดสิ้นกับสิ่งที่สร้างคุณประโยชน์ต่อองค์กรตำรวจมาครึ่งค่อนชีวิต

เขาไม่เคยคิดคดโกง

เรื่องเกิดขึ้นเป็นเพียงความผิดพลาดทางเทคนิคของเอกสารที่สะเพร่า

ไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ขโมยเงินหลวง

หลังพ้นเรือนจำพยายามต่อสู้ดิ้นรนขอกลับเข้ารับราชการ แต่ถูกขัดขวางอ้างเรื่องข้อกฎหมายใหม่อุดรู “ประตูเหล็กกล้า” มีคณะกรรมการบางคนกีดกันออกจากเกมบนกระดาน

แต่เขายังมีคุณค่า มีราคาแก่องค์กร เมื่อถูกเชิญเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหลายหลักสูตรสืบสวนรวมถึง ปั้นนักสืบ 5G ยุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น “ครูใหญ่”

มันสมองของเขายังมีประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทว่าร่องรอย “มลทิน” เป็นชะนักติดหลังไม่อาจแกะออกหรือลบล้างได้

กระทั่ง มีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เขาอยู่ในบัญชี ให้ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2560 เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

“ผมรอมา 6 ปีแล้วไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น ผมใช้นายมานานแล้ว” เจ้าตัวน้อมรับ

เป็นราษฎร์เต็มขั้น “ไม่ช้าก็เร็ว ท้ายสุดก็ต้องเกษียณอายุราชการกันทุกคน เดินวนเจอกันตามโรงพยาบาลไม่ใช่หรือ” นักสืบระดับอาจารย์ว่า

จบเส้นทางจอมยุทธ์สีกากีตลอดเวลา 30 ปีของชีวิตตำรวจ

 

RELATED ARTICLES