พิสูจน์น้ำยา

 

ปล่อยคดียืดเยื้อไม่มีความคืบหน้า

ผู้เสียหายตัดสินใจดั้นด้นไปพึ่งพามูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลอง  7 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี  ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังตกเป็นเหยื่อที่เกือบถูกไอ้โม่งข่มขืนกระทำชำเรา ขณะออกไปทำสวนพริกที่ทุ่งนาคนเดียว

เหตุเกิดในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา บริเวณใกล้เคียงกับหญิงชราวัย 78 ปี และวัย 68 ปี ที่ถูกข่มขืนกระทำชำเราก่อนหน้านี้

ผู้เสียหายในวัย 70 ปีระบุว่า  อาศัยอยู่ในอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ออกไปทำสวนพริกที่ทุ่งนาคนเดียว ระหว่างนั่งพักในกระท่อม จู่ๆ คนร้ายสวมไอ้โม่งโผล่มาด้านหลังแล้วล็อกคอ ข่มขู่ห้ามส่งเสียงดัง

ถามว่ามีเงินไหม ผู้เสียหายบอกไม่มี  คนร้ายได้ใช้เชือกรัดขาและรัดแขนไพล่หลัง จับถอดเสื้อผ้าจะลงมือข่มขืน โชคดีมีคนผ่านมาพอดี คนร้ายขู่ห้ามส่งเสียงดังแล้วหลบหนีไป

ลูกหลานพาไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่อง แต่ยังไม่ได้แจ้งความ

ปัจจุบันอยู่แบบหวาดผวาเมื่อรู้ว่ามีหญิงชราอีก 2 คนถูกข่มขืนกระทำชำเราและมาร้องทุกข์มูลนิธิก่อนหน้า

คนร้ายยังลอยนวล ตำรวจยังจับตัวไม่ได้

ทั้งที่เหตุเกิดกลางวันแสก ๆ มีแค่ภาพกล้องวงจรปิด ทว่าไม่สามารถตามรอย “จอมหื่นวิตถาร” รายนี้มาดำเนินคดีได้

ล่องหนนานข้ามปี

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีพาหญิงชราเหยื่อทั้ง 3 คน เข้าพบ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นหัวหน้าติดตามความคืบหน้า

กลับพบเพิ่มเติมว่า มีหญิงชราเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 9 ราย แยกเป็นพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ 5 ราย อำเภอโนนแดง 1 ราย อำเภอบ้านเหลี่ยม 2 ราย และอำเภอแก้งสนามนางอีก 1 ราย

ตำรวจตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบคนร้ายมี 4 รายที่ตรงกับของผู้กระทำความผิด อีก 5 รายยังไม่สามารถตรวจได้

ทีมนักสืบอีสานใต้ความตัวผู้ต้องสงสัยไปแล้ว 20 ราย แต่ยังไม่ตรงพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สักราย

มีการตั้งค่าหัวนำจับให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส 20,000 บาท

กระนั้นก็ตามคดีคาราคาซังจน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทนไม่ไหว มอบหมายให้พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไป ควบคุมกำกับดูแลและเร่งรัดคดี

กรณีเหตุชิงทรัพย์และกระทำชำเราหญิงวัยสูงอายุ เป็นเหตุที่เกิดต่อเนื่องกันหลายพื้นที่และมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

นัดประชุม พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวภูธรภาค 3 ที่รับผิดชอบงานสืบสวน  ร่วมกับ พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรภาค 3  ทีมนักสืบทั้งหน่วย รวมถึง พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าโรงพักและฝ่ายสืบสวนที่รับผิดชอบในสถานที่เกิดเหตุ และทีมงานของ พล.ต.ต.หญิง ธิติมา ธรรเมศรานนท์ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน 3

จัดเตรียมบรรยายสรุปรายละเอียดในแต่ละคดี พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องนำเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นรูปเล่ม

ปูพรมล่าคนร้ายอย่าให้ “เสียฟอร์ม” เหมือนครั้งเกิดคดีข่มขืนคนแก่หลายรายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เมื่อ 10 กว่าปีก่อน

พิสูจน์น้ำยานักสืบอีสานใต้จะเก่งแค่ไหน

RELATED ARTICLES