ตม.1ร่วมจัดหางานบุกค้น 2 จุด โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อดัง ย่านรัชดา – บางนา รวบ 8ผีน้อยเกาหลีใต้

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน สนธิกำลังปูพรมตรวจสอบโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อดังแห่งหนึ่ง รวม 2 จุด ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนรัชดาภิเษก และอีกจุดหนึ่งบริเวณศูนย์การค้าย่านบางนา โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ และ พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 และเจ้าพนักงานกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานนับสิบนาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ

พล.ต.ต.ประสาธน์ เปิดเผยว่า เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแสดงบัตรประจำตัวขอตรวจสอบการจ้างคนต่างด้าวทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสถานที่ลักษณะเป็นห้องกระจกย่อยๆ หลายห้อง ภายในห้องเรียนมีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ มีอุปกรณ์สื่อการเรียน การสอน เช่น หนังสือภาษาเกาหลี แบบฝึกหัดสำหรับให้นักเรียนทำ กระดานสีขาว (ไวท์บอร์ด )  สำหรับผู้สอนใช้เขียนขณะสอน  เครื่องรับโทรทัศน์ ติดตั้งอยู่บริเวณมุมห้องด้านหน้าชั้นเรียนสำหรับแสดงสื่อการเรียน และพบแผ่นพับโฆษณาโรงเรียนแสดงคอร์สการเรียน คิดอัตราค่าเรียนตามคอร์สประเภทต่างๆ หลายราคา มีนักเรียนคนไทยกำลังเรียนภาษาโดยมีครูเกาหลีใต้ทำหน้าที่สอน จึงได้บันทึกภาพถ่ายเป็นหลักฐานก่อนตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ของครูสอนภาษาที่พบในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด ผลการตรวจสอบพบครูสัญชาติเกาหลีใต้ถึง 8 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 2 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งได้รับการผ่อนผัน ให้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรได้ 90 วันโดยมิต้องขอรับการตรวจลงตรา (FREE VISA) แต่บางรายอยู่ในราชอาณาจักรโดยอาศัยเหตุผลเนื่องจากมีภรรยาเป็นคนไทย  จากการสอบถามและตรวจสอบจากฐานข้อมูลกรมการจัดหางาน ทั้ง 8 รายไม่มีใบอนุญาตทำงาน 

“จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่า พวกตนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาได้เข้ามารับจ้างทำงานที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งนี้ ซึ่งมีคนไทยคือนางสาววิภา (นามสมมติ) เป็นเจ้าของโรงเรียนและเป็นนายจ้าง โดยได้ว่าจ้างชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 ราย ให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาเกาหลีให้กับนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนเป็นรายชั่วโมง ทั้งแบบออนไลน์และ ณ ที่ตั้ง โดยผู้ถูกจับรายที่ทำงานมานานที่สุด ทำงานสอนภาษาเกาหลีมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ทั้งนี้ผู้ถูกจับส่วนใหญ่ จะได้รับเงินค่าจ้างสอนออนไลน์ได้ค่าจ้างรายชั่วโมงละ 200 บาท หากเป็นการสอน ณ ที่เรียน จะได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 350 บาท และได้รับค่าจ้างทั้งในรูปแบบเงินสดและการโอนเข้าบัญชี จากนางสาววิภาฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 รายทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ”  แจ้งข้อกล่าวหานางสาววิภาฯ ในฐานะนายจ้าง “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” จากนั้นควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.ประสาธน์ กล่าว

พล.ต.ต.ประสาธน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ปฏิบัติการดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากเบาะแสสำคัญของพี่น้องประชาชนที่เป็นหูเป็นตา และเป็นความร่วมมือในการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน นอกจากนี้ยังขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนผ่านผู้สื่อข่าวว่า การกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดตามกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักและกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังความสามารถ ดังที่ปรากฏในสื่อกระแสหลักและช่องทางอื่นๆ เสมอมา หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยตรง หรือที่ หมายเลข 1178 จักขอบพระคุณยิ่ง

RELATED ARTICLES