“ผมเป็นตำรวจยังโดนเลยครับ โอนจองโรงแรมไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเมืองนครสวรรค์ รับแจ้งแล้วเรื่องก็เงียบ” พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ตำนานนายตำรวจมือปราบระบายความรู้สึกถึงภัยรายวันที่เกิดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
มีบางรายร้องทุกข์ความเดือดร้อนเล่าสู่กัน
หลังเพิ่งตกเป็นเหยื่อเมื่อสองเดือนก่อน ตอนไปแจ้งความ ตำรวจบอกว่า บัญชีม้ารายนี้มีคนฟ้องมา 4 โรงพักแล้ว เขาเป็นคนที่ 5
เจ้าตัวยังงงว่าควรจะอายัดบัญชีคนนี้ตั้งแต่โรงพักแรกแล้วไหม ไม่ต้องรอให้หลอกคนอื่นอีก
“พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความเรื่องนี้มีน้อย ต้องวนไปรับแจ้งตามสถานีตำรวจต่างๆ กว่าจะไปอาจใช้เวลา 2 วันถึงจะได้ใบแจ้งความไปยื่นธนาคารแค่ 2 วัน มิจฉาชีพโกงไปอีกหลายรายแล้ว”
ป่านนี้ยังจับไม่ได้เลย
หลายรายแจ้งความและสอบสวนเสร็จไปแล้ว คดีผ่านมาปีกว่าแล้วเงียบ ไม่มีความคืบหน้าอะไร เหมือนกับว่า “คดีถูกทิ้ง”ไปแล้ว
อย่าไปหวังอะไรกับตำรวจเลยครับ
พล.ต.อ.ปัญญาบอกว่า ถ้าเข้าไปดูในกลุ่มที่ถูกโดนหลอกและแจ้งความไป บางคนผ่านไป3-4 ปี ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ถ้าไม่ใช่คดีดังในโซเชียลอย่าไปหวังอะไรมาก ตำรวจจะอ้างคดีเยอะไม่ค่อยอยากจะทำ
อธิบายยืดความว่า เงินที่เสียไปไม่ได้คืนหรอก พอโอนไปปุ๊บ มันจะโอนต่อไปที่บัญชี 2 แล้วโอนต่อไปอีกเรื่อยๆกว่าจะแจ้งความเสร็จเงินมันก็ออกนอกประเทศไปแล้วไม่ถึง 5 นาที เงินก็โอนไปไหนต่อไหนแล้ว ทางเรายังจะต้องมาวิ่งแจ้งความ แจ้งอายัด ไม่ทันแล้ว
“ผมเป็นตำรวจยังโดนเลยครับ โอนจองโรงแรม ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ รับแจ้งแล้วเรื่องก็เงียบ” พล.ต.อ.ปัญญาย้ำในความผิดพลาด
ครั้งจะไปฟ้องธนาคารให้รับผิดชอบ การฟ้องต้องจ้างทนาย มีค่าใช้จ่ายพอสมควรและยุ่งยากเสียเวลา และธนาคารคงไม่ยอมง่ายๆ
ต้องเสียเงินและสู้กันไม่รู้กี่ชั้นศาล
“ถ้าชนะจะได้เงินมาคุ้มค่าทนายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ของผมเคยถามไปคดีไปถึงไหน มันส่งสติกเกอร์แบบงง ๆมาให้ 5555 ลองดูใน FB มีรับจ้างเปิดบัญชีม้าด้วยนะ มันจับได้เฉพาะบัญชีม้า”
หัวหน้าใหญ่ไม่เคยเห็นตำรวจขยายผลถึงเลย
สมัยก่อน อดีตนายพลมือปราบคอลเซ็นเตอร์ยืนยันไม่เคยมีอย่างนี้ อยากรู้จังพวกแก๊งนี้เวลาถูกจับได้รับโทษอะไรบ้าง สารภาพว่า ถูกหลอกแล้วไง ไม่เห็นข่าวออกมาบ้างว่าได้รับโทษ
ทำให้คนที่รับจ้างเปิดบัญชีไม่กลัว