พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 สั่งการ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม สนธิกำลัง กก.สส.บก.น.9 เข้าช่วยเหลือ น.ส.จิดาภา ดวงลายทอง อายุ 21 ปี ที่หายตัวออกจากบ้านไปและไม่สามารถติดต่อได้พร้อมทองคำหนักสี่บาท หลังถูกแกงค์คอลเซนต์เตอร์หลอกให้นำทองคำไปขาย นำเงินมาจ่ายแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี จำนวน 100,000 บาท โดยการให้ออกจากบ้านไปเปิดโรงแรม แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวได้ทันจนรอดจากการเป็นเหยื่อหวุดหวิด
ทั้งนี้ทราบว่า นายจันทร์ ดวงลายทอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษมว่า น.ส.จิดาภา ดวงลายทอง ซึ่งเป็นบุตรสาว ได้ออกจากบ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเศรษฐีวิลล์ แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท 1 เส้น หนัก 1 บาท 1 เส้น แหวน น้ำหนัก 1 สลึง 1 วง โดยแจ้งว่าจะออกไปทำธุระเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 16.30 น.ที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้เกรงว่าจะได้รับอันตราย
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เชื่อว่า น.ส.จิดาภา น่าจะมีกลุ่มคนร้ายหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สิน (แก้งค์คอลเซนเตอร์) จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม ออกติดตามไล่กล้องวงจรปิด และประสานไปยัง กก.สส.บก.น.9 เพื่อขอสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิค จนพบตัวน.ส.จิดาภา ที่โรงแรม ไดม่อน แขวงและเขตบางแค กทม.
จากการสอบถาม นส.จิดาภาฯ ทราบว่าได้มีเจ้าหน้าที่จาก บริษัทเอไอเอส ว่าตนเองได้ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และมีการพัวพันกับการกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และการพนัน จากนั้นได้มีการโอนโทรศัพท์ให้พูดคุยกับ จ่าจรัญ ซึ่งอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่าตนได้ทำผิด พรบ.คอมฯ เกี่ยวกับเว็ปพนัน ซึ่งบอกให้ตนหานำรหัส ธนาคารของผู้ปกครองของตน ไปให้ และห้ามบอกผู้ปกครองหรือญาติ ซึ่งผู้ปกครองของตนไม่ยินยอมให้ ทางแก็งคอลเซ็นเตอร์จึงได้บอกให้ตนหาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ตนจึงได้นำทองออกไปขาย ซึ่งทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ห้ามไม่ให้ตนบอกใครหรือติดต่อกับใคร และห้ามกลับบ้านให้หาโรงแรมเพื่อเปิดห้องอยู่คนเดียว ห้ามรับสายใครหรือต่อต่อกับใครโดยเด็ดขาดและบอกให้ตนโหลดแอป binance th (แอปเทรดคริปโต) สมัครสมาชิกและให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารของตน ก่อนที่ตนจะทำธุรกรรมสำเร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามตัวมาพบเสียก่อน สาเหตุที่ตนเชื่อแกงค์คอลเซนเตอร์ เนื่องจากข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับพ่อแม่ ตนกลัวจึงได้ทำตามที่คนร้ายสั่งการทุกอย่าง และที่สำคัญคนร้ายแต่งกายด้วยชุดตำรวจ จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน
ด้านนายจันทร์ ซึ่งเป็นบิดาได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหาจนบุตรสาวจนเจอ ครั้งนี้ตนไม่ได้คิดว่าจะเสียเงินทองไปแล้วจะได้คืนหรือไม่ แค่ตามหาลูกให้เจอก็ดีใจมากแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยใจจริงที่ ช่วยตามหาไม่ทอดทิ้งตนเองและครอบครัว เป็นความประทับใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้
พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความโชคดีมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่กล้องวงจรปิดและสืบสวนทางเทคนิคจนพบตัวน้องก่อนที่จะมีการโอนเงินให้กับคนร้าย ส่วนในทางคดีก็ได้มีการประสานกับทาง ผกก.สส.บก.น.9 เพื่อหาความเชื่อมโยงในการดำเนินคดีกับคนร้าย และอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า วิธีการของคนร้ายจะอาศัยความกลัวของผู้เสียหาย ข่มขู่ได้วิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความกลัว และที่สำคัญมีการแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ดังนั้นขอแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการใดที่จะให้ผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปทำธุรกรรมในการโอนเงิน หรือสอบสวนคดีผ่านทางโทรศัพท์ ดังนั้นหากพบวิธีการแบบนี้ให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน และมีอะไรให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจจะดีที่สุด
