บุกเซฟเฮ้าส์ลับ รวบบอสสาวหล่อชาวจีน” พร้อมหวานใจอดีตครูสาวร่วมขบวนการแสกรมเมอร์ฟิวแฟน เสียหายเฉียดร้อยล้าน

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์รอง ผบช.น. / รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิลผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติสว.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) และ บก.สส.บช.น. ปฏิบัติการ “ปลายรังบอสแสกรมเมอร์ฟิวแฟน นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ ค.101/2568 ลงวันที่ 19 ก.พ. 68 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 129/14 โครงการหมู่บ้าน indy 4 บางนา กม.7 ซ.ราชวินิตบางแก้ว ถ.บางนา-ตราด จ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สามารถจับกุม Miss.ZHOU ZHOU ชื่อเล่น “โจว” อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสแสกมเมอร์ฟิวแฟน-หลอกลงทุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.113/2568 ลงวันที่ 17 ก.พ. 68 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร”

น.ส.อลิษา ล่ำกระโทก ชื่อเล่น “เล็ก” อายุ 31 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.114/2568 ลงวันที่ 17 ก.พ. 68 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร” และพวกอีก 3 คน พร้อมของกลาง บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี , บัตรเดบิต 70 ใบ , ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม , โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ต 1 เครื่อง และรถยนต์โตโยต้า ยาริส 1 คัน

ทั้งนี้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ PCT ได้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่าการหลอกลวงรูปแบบ “ฟิวแฟนสแกรมเมอร์” จากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งถูกหลอกลวงโดยการปลอมโปรไฟล์แล้วสนทนา “ฟิวแฟน” ให้เหยื่อหลงรัก ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านค้า Tiktok ของสิงคโปร์ จากนั้นจะลวงให้ทำ “ภารกิจ” โดยให้เหยื่อออกเงินไปก่อน หลังเหยื่อทำภารกิจครั้งแรกสำเร็จก็ได้รับเงิน ทำให้เหยื่อตายใจ หลังจากนั้นต้องเพิ่มยอดเงินมากขึ้นซึ่งต่อมาก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้ โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเพราะเหยื่อกดออเดอร์ล่าช้า ต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกจึงจะถอนเงินในระบบได้ เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พระโขนง จนศาลได้ออกหมายจับไว้

โดย พล.ต.ต.ธีรเดชฯ แกะรอยเส้นทางการเงินจนพบว่าเงินที่แก๊งสแกรมเมอร์นี้หลอกลวงได้แล้วท้ายสุดจะนำไปเข้าสู่ระบบแปลงเงินออกเป็นเหรียญดิจิทัล ผ่านช่องทางแอ๊พพลิเคชั่น บ. ชื่อดังในเมืองไทย มี Miss.ZHOU “บอสโจว” สาวหล่อหัวหน้าแก๊งสแกรมเมอร์นี้ ซึ่งเจ้าตัวใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายในประเทศไทย เปิดเซฟเฮ้าส์รังรักพลอดรักอยู่กับ น.ส.อลิษา (สงวนนามสกุล) หรือ “เล็ก” ครูสาวชาวไทยอนาคตไกลที่พึ่งลาออกจากการเป็นครูผันตัวมาเป็น “ซ้อบอส”

โดยภายในเซฟเฮ้าส์ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นรังรักของทั้งสอง แต่ยังเป็นด่านเงินสุดท้าย ที่แก๊งสแกรมเมอร์จะให้ระดับหัวหน้าโยกเงินออกเป็นบิตคอยน์ที่บ้านหลังนี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นเซฟเฮ้าส์ลับดังกล่าว ภายในหมู่บ้านชื่อดังใน ซ.ราชวินิตบางแก้ว ถ.บางนา-ตราด จ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สมารถ จับกุม Miss.ZHOU (บอสทอม) และ น.ส.อลิษา (แฟนสาวบอส) ระหว่างเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสุกฤษฏิ์ฯ และ นางสาวอาทิตยาฯ กำลังรับ นายสุเชษฐ์ฯ เปิดบัญชีไปแสกนหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ม.รามคำแหง 2 จึงได้จับกุมตัวทั้ง 3 คน ไว้ทันที

จากการตรวจค้นพบ บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี , บัตรเดบิต 70 ใบ , ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม , โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ต 1 เครื่อง จากการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดที่ตรวจพบความเชื่อมโยงในระบบการรับแจ้งความออนไลน์(Case ID) รวมทั้งสิ้น 132 Caseid มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท

ในชั้นจับกุม Miss.ZHOU (บอสทอม) ยังคงให้การภาคเสธ โดยให้การว่า “จะมีบอสอีกคนซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน คอยดูแลออฟฟิศสแกรมเมอร์ ส่วนตนนั้นมาฝังตัวอยู่ในประเทศไทยเพื่อคอยจัดการเรื่องการทำบัญชีและเส้นทางการเงินที่ได้จากการหลอกลวง โดยบอสในฝั่งเพื่อนบ้านจะคอยโอนเงินไทยมาให้ตนเพื่อไปเป็นธุระจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าและเปิดวอลเล็ต Bitkub พร้อมกับผูกไว้ในโทรศํพท์แบบพร้อมใช้ และอีกหน้าที่คือบอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะโอนเงินมาให้ตนที่ถือบัญชีม้าวอลเล็ตม้าเหล่านี้ ก่อนให้ตนนำไปแปลงเป็นเงินสกุลดิจิตัล แล้วให้โอนสับหลอกเจ้าหน้าที่ก่อนส่งกลับไปยังบอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แอ็พพลิเคชั่น Bitkub ส่วน น.ส.อลิษา เป็นแฟนสาวของตน ตอนแรกเป็นครูแต่ตนได้ชักชวนให้มาทำงานด้วยเพราะพูดภาษไทยไม่ได้ แฟนสาวจะทำหน้าที่คอยตอบแชทและจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าให้ โดยกระบวนการจะไม่เปิดแค่บัญชีธนาคาร แต่จะเปิดบัญชีวอลเล็ตของ Bitkubด้วย”

ในชั้นจับกุม น.ส.อลิษา (แฟนสาวบอส) ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองพึ่งลาออกจากการเป็นครูที่โรงเรียนชื่อดังใน ซ.ลาซาน จ.กรุงเทพฯ โดยที่ลาออกเพราะ Miss.ZHOU ซึ่งเป็นแฟนของตนชักชวนให้ลาออกและมาช่วยงานเต็มตัว โดยตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย Miss.ZHOU จะรู้เรื่องทั้งหมด”

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลเรามีพยานหลักฐานยืนยันว่า Miss.ZHOU (บอสทอม) และ น.ส.อลิษา (แฟนสาวบอส) เป็นระดับหัวหน้าสั่งการในประเทศไทย คอยจัดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและวอลเล็ตเงินสกุลดิจิตัล เพื่อใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงของแก๊งสแกรมเมอร์ฟิวแฟน และยังโดยจะคอยแปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงจากเงินบาทแปลงเป็นเงินสกุลดิจิตัล แม้ว่าทั้งสองยังคงให้การไม่เต็มที่ แต่เรามีพยานหลักฐานมัดแน่นและของกลางที่เราตรวจพบในบ้านแห่งนี้ถูกนำไปใช้หลอกลวงพัวพันกับระบบฐานข้อมูลรับแจ้งรวมทั้งสิ้น 132 Caseid มูลค่าความเสียหายกว่า91,192,017 บาท ซึ่งหลังจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ขยายผลให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.”

RELATED ARTICLES