“ยังออกไม่ได้ครับพี่ ระบบมันยังไม่เสถียร พี่ต้องถอยแล้วกลับรถไปออกช่องทางเข้าเมื่อเช้านี้ ต้องขอโทษด้วยครับ” พนักงานประจำจุดทางออกอาคารจอดรถของศูนย์ประชุมใหญ่แห่งหนึ่งชี้แจง
เขาเริ่มหัวเสียเมื่อต้องรีบไปรับลูกสาวที่ลงสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังของประเทศ
โลกหมุนเร็วเกินกว่าชายวัยกลางคนอย่างเขาจะปรับตัว ทั้งระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ต่างเปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่ง ผันผวนไม่แน่นอน ทำให้การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เริ่มไม่สนุกและเป็นปัญหาสำหรับคนบุคลิกเช่นเขา
เมื่อแรงกดดันเข้าครอบงำ สมองเริ่มคิดสารัตถะไปเรื่อยเปื่อย
ย้อนไปเมื่อวันก่อน ข ลณะที่เขาไปตรวจเร่งรัดสำนวนการสอบสวน ตามวงรอบของกองบังคับการในสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ได้พบปะน้องๆพนักงานสอบสวนที่หลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเคยร่วมและประสานงานกันมาก่อน
“เอ็งยังออกจากงานสอบสวนไม่ได้อีกหรือน้อง เอ็งมันยอดนักสืบ มานั่งปั่นสำนวนแบบนี้ พี่ว่าไม่น่าจะเหมาะ ออกไปโลดแล่นทำงานที่เราถนัด จะก้าวหน้ากว่าไหม”
รองผู้กำกับหนุ่มถอนหายใจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือประกอบแววตาที่สิ้นหวัง
“ผมไม่เอาแล้วครับเฮียงานตำรวจ ผมวางแผนเออรี่ไว้แล้ว อีก 2 ปีลาออก คงยังพอจะหางานใหม่ทำได้บ้างว่าแต่เฮียล่ะ ผมก็เห็นอยู่มานานเกินไปแล้วนะ ไม่คิดจะไปเป็นหัวหน้าสถานีกับเขาบ้างเหรอครับ” ผู้กำกับวัยเก๋ายิ้มแห้งๆปราศจากคำตอบ
ในทันใดนั้น เสียงพนักงานหญิงประจำจุดแลกบัตร ตะโกนมา
” พี่ต้องถอยรถกลับไปทางออกปกติค่ะ ตอนนี้ระบบใช้ได้แล้ว “ เขาอยากจะวิ่งกระโดดถีบไม้กั้นทางออกให้มันพังกันไปข้างหนึ่ง ถ้าไม่มีเสียงเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ แสดงข้อความจากลูกสาววัยกำลังเติบโต
” ป๊าอยู่ไหน หนูรอตรงหน้าร้าน After you นะ รีบๆมา หิวข้าวแล้ว “ เขากดสวิตช์ปิดกระจกอัตโนมัติพร้อมกับดึงสติกลับมาบังคับพวงมาลัย แล้วค่อยๆถอยกลับรถ ตามคำสั่งของพนักงานหญิงคนนั้นอย่างว่าง่าย แบบไร้แรงต่อต้าน
ทางออกที่มีไม้กั้นขวางบางกลับน้อยกว่าขวากหนามขวางเส้นทางชีวิตรับราชการ