พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หน.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าว น.ส.เซิน (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 650/2565 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2565 ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ยอมให้ผู้อื่นใช้ชื่อ เอกสาร หลักฐานของตนในการเปิด จด หรือลงทะเบียนทางธุรกรรมทางการเงิน ซื้อสินค้าหรือบริการอื่นใด ยอมให้ใช้บัญชีธนาคารบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ หรือยอมให้ผู้อื่นใช้สิ่งเช่นว่านั้น ซึ่งตนได้เปิด จด หรือลงทะเบียนไว้แล้ว โดยรู้หรือควรรู้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” และนายยางยู (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในชุมชน และเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 110 เม็ด จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.7 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
ทั้งนี้ กก.2 บก.สส.สตม. ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.เซิน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาได้หลบหนีกบดานที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งได้พบ น.ส.เซิน จึงได้จับกุมตามหมายจับดังกล่าว โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุม น.ส.เซิน อยู่นั้น นายยางยู แฟนของ น.ส.เซิน ซึ่งอยู่ในบ้านได้เปิดประตูบ้านออกมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบปรากฏว่านายยางยู ได้ปิดประตูบ้านหายไปในบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมบริเวณรอบบ้านไว้และพบว่านายยางยู หลบซ่อนตัวอยู่ริมกำแพงรั้วด้านหลังบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นายยางยู พยายามจะหลบหนีการจับกุมพร้อมโยนถุงพลาสติกสีน้ำเงินออกไปนอกรั้ว เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุม และได้ตรวจสอบที่บริเวณรั้วบ้าน พบถุงพลาสติกสีน้ำเงินที่นายยังยูโยนออกไปภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 110 เม็ด
สอบสวนนายยางยู รับว่ายาบ้าที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นเป็นของตนเองโดยซื้อมาจากชายไทยชื่อนายเบียร์ ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง ในราคา 5,000 บาท มาเพื่อเสพโดยใช้วิธีการสูบหรือผสมลงในเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจับกุมแฟนสาวของตนอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านคิดว่าเจ้าหน้าที่จะมาจับกุมตนเอง จึงตกใจวิ่งหลบหนีและพยายามปีนกำแพงหลังบ้านจะไปหลบซ่อนตัวที่ป่าละเมาะเมื่อจวนตัวจึงได้โยนยาบ้าทิ้ง
นอกจากนี้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพบว่านายยางยู การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด เป็นเวลา 12 ปี
