พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.สั่งการ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., ว่าที่ พ.ต.อ.นพรัตน์ จงเชิดตระกูล ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.จิรโชติวัจน์ คล้ายคลึง รอง ผกก.4 บก.สส.สตม. ว่าที่ พ.ต.ต.พัสกร กลัดงิ้ว สว.กก.4 บก.สส.สตม. , ร.ต.อ.พิเชษฐ รบไพรี รอง สว.กก.4.บก.สส.สตม. ร่วมกับ เจ้นาหน้าที่ตำรวจ บก.น.6 จับกุมชาย สัญชาติญี่ปุ่น ที่บริเวณห้องพักในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเดินทางเข้าประเทศเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ผ่านช่องทางสนามบินดอนเมืองต่อมาได้หลอกลวงชักชวนคนไทยและเพื่อนร่วมชาติร่วมลงทุนทำธุรกิจกัญชาและธุรกิจอื่นมากมาย มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท จนนำมาสู่การการถูกออกหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 63/2568 ลงวันที่ 21 ก.พ. 68 ในข้อหา “ฉ้อโกง”
โดยบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแจ้งบุคคลดังกล่าวว่าจะต้องถูกจับ และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เมื่อปี 2560 ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมชาติบริเวณ ซอยสุขุมวิท 49/13 เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยขากรรไกรล่างหัก ฟันกรามซี่ที่ 2 ขากรรไกรล่างซ้ายหัก ต่อมาผู้เสียหายได้เดินทางกลับไปแจ้งความดำเนินคดีต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเหตุให้ทางการญี่ปุ่นออกหมายจับอีกคดี
ซึ่งทางผู้ต้องหาได้หลบหนีไปๆมาๆ ระหว่างประเทศ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมในขณะจับกุมเชื่อว่า ผู้ต้องหา ยังเป็นสมาชิกในองค์กรอาชญากรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากพบข้อมูลคลิปเกี่ยวกับการเรียกค่าไถ่โดยการใช้มีดกรีดที่ใบหู และ มีบทสนทนาพูดคุยถึงการเรียกค่าไถ่และขู่จะเอาชีวิตเอกสารที่ใช้แอบอ้างในการฉ้อโกงผู้อื่น เอกสาร ข้อมูลบริษัทคนญี่ปุ่นที่เปิดในประเทศไทยที่ใช้ในการหลอกลวงอีกจำนวนมากและอาจรวมถึงการค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าอวัยวะอีกด้วย โดยพยานหลักฐานที่พบ มีการระบุราคาชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆซึ่งในส่วนนี้จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงต่อไป