ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในประธานคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ภูวเดช จุลกะเสวี ผกก.1 บก.ปอศ., และ นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมแถลงผลการจับกุมนายพิพัฒน์ฯอายุ 26 ปีสัญชาติ, นายวสันต์ฯอายุ 40 ปี ทั้งสองสัญชาติไทย, Mr.LI WEI อายุ 32 ปี, Mr.LI YIอายุ 31 ปี ทั้งสองสัญชาติจีน, MISS SWE ZIN อายุ 36 ปี, MISS HTET HTET อายุ 34 ปี ทั้งสองสัญชาติ พม่า
ข้อหา “ร่วมกันปลอมและมีไว้ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมและเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น, ร่วมกันเอาชื่อรูปรอยประดิษฐ์หรือข้อความใดๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หุ้มห่อเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น” พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดได้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค อาทิ แชมพูสระผม น้ำยาล้างเครื่องสำอาง ถุงยางอนามัย และอื่น ๆ จำนวน 623,242 ชิ้น ได้ที่โกดังแห่งหนึ่งไม่ติดเลขที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตัวแทนผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บริษัท เดอะ พร๊อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล คัมปะนี ตัวแทนแชมพูสระผม ยี่ห้อ head & shoulders ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ลักลอบเสนอจำหน่ายสินค้า “ปลอมและปลอมเครื่องหมายการค้า” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อ Perfume poisonous เนื่องจากพบสินค้าดังกล่าวไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานตามที่กำหนดไว้จากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งเมื่อประชาชนผู้บริโภคซื้อไปใช้อาจก่อเกิดอันตรายได้
ด้านพ.ต.อ.วิจักขณ์ หลังรับเรื่องจึงนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่า โกดังแห่งหนึ่งไม่ติดเลขที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม มีรถขนสินค้าเข้าออกตลอดเวลา จึงเชื่อว่าเป็นสถานที่ เก็บ ซุกซ่อนสินค้าปลอมไว้หลายรายการ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางออกหมายค้น เพื่อเข้าทำการตรวจค้นโกดังหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบว่า มีคนงานเป็นชาวไทย 2 ราย ชาวเมียนมา 2 ราย และชาวจีน 2 ราย ทำหน้าที่แพ็คและส่งสินค้าจึงควบคุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว
ขณะที่ร้อยตรี จักรา กล่าวแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันปราบปรามสินค้าปลอมที่ผิดกฎหมาย กล่าวเสริมว่าหลังจากนี้ คณะทำงานฯ จะร่วมกันระดมตรวจสอบ และบูรณาการในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิด และผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อให้กรณีในลักษณะดังกล่าวลดลงให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
ว่าที่ พ.ต.อ.ภูวเดช กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวน รับว่า เมื่อแพ็กสินค้าเสร็จเมื่อมีออเดอร์เข้ามาก็จะให้คนไทยไปส่งสินค้าที่บริษัทขนส่งใกล้เคียงเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับค่าตอบแทนจากคนจีน วันละ 350 บาท โดยกำหนดจ่ายค่าแรงทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
