พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. , พ.ต.ท.เจษฎา ทองทา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. , พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.กก.สืบสวน บช.ทท. และ พ.ต.ท.วัชรธร ธีรเมทถีรชญาภา สว.กก.1 บก.ทท.2 ร่วมกับ ตม.จ.ร้อยเอ็ด จับกุมนาย โกมินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี , นาย มนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี และนาย ธีรพล (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาวจ.สุรินทร์ ข้อหา ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม พร้อมบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 22 ราย
ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง ว่ามีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมากับรถตู้ มักจะมาจอดพัก เพื่อขนถ่าย-โยกย้ายคนต่างด้าว ที่บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ต.ชานุวรรณ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ในเวลากลางคืน เป็นประจำ หลังรับเรื่องจึงได้นำกำลังลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ ที่บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว กระทั่งพบรถยนต์ตู้ จำนวน 3 คัน ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งขับเข้ามาจอดที่บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าไปแสดงตัวเข้าตรวจสอบรถยนต์ตู้ ทั้ง 3 คัน ผลดารตรตรวจค้นพบว่า รถตู้คันแรกมีนาย โกมินทร์ เป็นผู้ขับขี่ และต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 8 คน รถตู้คันที่ 2 มีนาย มนตรี เป็นผู้ขับขี่ พบต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 6 คน ส่วนรถยนต์คันสุดท้าย มีนาย ธีรพล เป็นผู้ขับขี่ ต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 8 คน จากการตรวจสอบเอกสารบุคคลต่างด้าวทั้ง 22 รายไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รับสารภาพว่า ได้เรียกเก็บค่ารถ 2,000 บาทต่อคน จาก กทม. และ 2,500 จากพัทยา โดยจะขับไปรับตามจุดต่างๆ ตามที่นัดหมายไว้ ในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล จุดหมายปลายทาง ปากแซง จ.อุบลฯ บางรายติดต่อผ่านเพจเฟซบุ๊ก บางรายญาติติดต่อให้ ส่วนบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาว ให้การว่ากำลังจะเดินทางกลับไปยังประเทศลาว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบและจับกุมเสียก่อน โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเครือข่ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป