ทางโลกสู่ทางธรรม

 

ตัดสินใจยื่นใบลาออกไปศึกษาทางธรรม

“ท่านเบิร์ด” นายกิตติ อินนาคกูล  ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้น ประจำศาลจังหวัดแม่สอด ยืนยันเจตนารมณ์ครั้งสำคัญที่ละจากทางโลก

พ.ต.ท.จักรกฤช ชูคง รองอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดตาก (สาขาแม่สอด) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 48 มีโอกาสพูดคุยกับน้องนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57 ที่เปลี่ยนเวย์เป็นผู้พิพากษาถึงเหตุผล

ขออนุญาตนำมาเผยแพร่

หลังจากได้รับคำตอบว่า คงจะปฏิบัติและศึกษาธรรมอีกสักระยะหนึ่ง  ก่อนจะตัดสินใจอื่น ๆ ต่อไป

“ส่วนตัวของผม ถ้าว่ากันตามจริง เพราะผมมีโอกาส เป็นครูลูกศิษย์ เป็นผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ปฏิบัติงานร่วมกัน  ตั้งแต่เบิร์ดยังเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเป็นผู้บังคับหมวดทำหน้าที่ปกครองน้องจนน้องสำเร็จการศึกษาออกเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร” พ.ต.ท.จักรกฤชว่า

ต่อมาได้มีโอกาสเวียนมาพบ เพราะโรงเรียนนายร้อยตำรวจคัดเลือกเป็นนักเรียนปกครองเข้ามาเป็นผู้บังคับหมวดปกครองนักเรียนนายร้อยตำรวจ กองร้อยที่ 4 ที่เขาเป็นผู้บังคับกองร้อยเดียวกัน

ได้พบเห็นการปฏิบัติของรุ่นน้องที่สม่ำเสมอ มั่นคงในการศึกษาเรื่องธรรมะอย่างจริงจังลึกซึ้ง 

ส่วนตัวเองต้องบอกว่า “ยังห่างไกลในเรื่องธรรมะมาก แต่ได้เห็นความตั้งใจในการศึกษาและปฏิบัติธรรมของรุ่นน้องที่สม่ำเสมอมาโดยตลอด”

ชีวิตรับราชการภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ  ทั้งคู่และน้องๆ ส่วนหนึ่งได้รวมตัวกันติวกฎหมายเพื่อสอบเนติบัณฑิต  ก่อนจบการศึกษาเนติบัณฑิตในสมัยเดียวกัน พร้อมรุ่นน้องอีกสองคน และยังคงจับกลุ่มติวกฎหมายเพื่อสอบคัดเลือกเป็นผู้พิพากษาและอัยการมาโดยตลอด

“สิ่งที่ผมพบเห็นคือ เบิร์ดศึกษากฎหมายอย่างแตกฉานอย่างชนิดที่หาตัวจับยาก  ในทุกเรื่องผมมีข้อสงสัยในข้อกฎหมายอย่างใดๆ เบิร์ดจะตอบข้อสงสัยผมได้หมด”

จนกระทั่งมาอยู่ปฏิบัติร่วมกันที่อำเภอแม่สอดในเวลาต่อมา  เขายังคงซักถามน้องถึงความสงสัยในทางกฎหมายเหมือนตอนเช่นที่อยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  รุ่นน้องเป็นผู้พิพากษาได้กรุณาตอบข้อสงสัยให้จนกระจ่างในทุกเรื่อง

ชีวิตราชการของทั้งคู่เวียนออกมาได้พบอีกครั้งที่ศาลจังหวัดแม่สอด  เขาว่าความในบัลลังก์ที่รุ่นน้องเป็นองค์คณะพิจารณา  พบปะพูดคุยกันภายหลังเวลาปฏิบัติงาน  เนื่องจากที่พักของข้าราชการศาลจังหวัดแม่สอดกับสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สอดอยู่ใกล้ชิดมาก

“เช่นเดิมผมได้พบเห็นถึงความสมถะ ความสม่ำเสมอของเบิร์ด  การใข้ชีวิตทั้งหน้าที่การงานและเรื่องการดำเนินชีวิตส่วนตัว   ขอยืนยันว่า  เบิร์ดเป็นแบบอย่างที่ดีมากของการเป็นตุลาการที่ดีงาม  การใช้ชีวิตแบบสมถะไม่ฟุ่มเฟือย  ละเว้นอบายมุขทั้งหมด”

แม้จะเป็นรุ่นพี่นักเรียนนายร้อยตำรวจ เขาตอบอย่างไม่อายว่า ได้อาศัยเอาเยี่ยงอย่างของน้องมาปฏิบัติกับตัวเองมาก เช่น การใช้ชีวิตเพียงพอ ไม่ฟุ่มเฟื่อย  แต่ยอมรับว่ายังห่างไกลจากรุ่นน้องมาก หลายเรื่องได้คุยบอกเสมอว่า พี่ปฏิบัติแบบเบิร์ดไม่ได้เลย  พี่ไม่สามารถละทิ้งบางอย่างแบบเบิร์ดได้จริงๆ ”

การที่ตัดสินใจลาออกนั้น  ส่วนตัวลึกๆไม่ตกใจมากนัก แต่รู้สึกมากๆ คือ เสียดายที่ต้องสูญเสียบุคคลากรในกระบวนยุติธรรมที่มีคุณค่า เพราะภาพจำของ้ขาและเป็นความจริง คือ รุ่นน้องสามารถจดจำตัวบทได้ทั้งหมด ศึกษาและทราบแนวคำพิพากษาศาลฎีกาได้ทั้งหมดและเป็นหลักให้แก่ท่านอื่นๆที่มีข้อสงสัยจนได้รับการยอมรับมาโดยตลอด

เป็นผู้พิพากษาในอุดมคติที่ดำรงตนในความยุติธรรมอย่างแท้จริงมาตลอด

ในความเห็นส่วนตัวจะหาผู้พิพากษาคนใดที่มีความรู้แตกฉานในทางกฎหมายแบบรุ่นน้องน่าจะยากพอสมควร

“เรื่องการตัดสินใจของเบิร์ดถึงสาเหตุการลาออก ผมไม่ถามเลย เพราะเชื่อว่าน้องได้พิจารณาใคร่ครวญในสิ่งที่จะทำมานานแล้ว  เพียงจังหวะและเวลามาบรรจบเหมาะสมในช่วงนี้เท่านั้น ผมได้เพียงแต่อนุโมทนาบุญกับการที่น้องจะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างเต็มกำลัง สมดังความตั้งใจ ในโอกาสต่อไป” นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่บอก

หวังว่า หากบุญของเขายังพอมีอยู่บ้างคงจะได้มีโอกาสได้เรียนรู้และถามข้อสงสัยในทางธรรมกับน้องในครั้งต่อๆไป

อนาคตเจ้าตัวอาจจะได้พอเข้าใจความสงบร่มเย็นในทางธรรมเหมือนกับน้องได้บ้าง  

RELATED ARTICLES