นิตยสาร COP’S ฉบับเดือนมิถุนายน 2561
เรื่องราวบทใหม่ของ หมวดเพชร-ร.ต.ต.หญิง บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล ลูกสาวคนกลางของ เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตผู้ก่อตั้งธุรกิจโทรคมนาคมชื่อดังบนถนนวิภาวดีรังสิต พลิกวิถีชีวิตจากสาวไฮโซนักเรียนนอก ทายาทนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐีของเมืองไทย หันสู่เส้นทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ประดับ “ดาวเงิน” บนบ่าประเดิมอาชีพใหม่ที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก
เธอถูกส่งไปใช้ชีวิตอยู่อังกฤษตั้งแต่อายุเพียง 11 ขวบ กระทั่งเรียนจบปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยบริสตอล มีพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้เลือกด้านศิลปะ ก่อนบินกลับมาศึกษาต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจังหวะที่พ่อวางมือจากธุรกิจผันตัวเองมาสร้างมูลนิธิและหอศิลป์ในโครงการพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย หรือ Museum of Contemporary Art ( MOCA Bangkok)
ต่อมาสมัครเรียนระดับปริญญาเอกสถาบันอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต และขอเข้ามาดูงานกองบัญชาการตำรวจสันติบาลในยุค พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข คุมหน่วยกลายเป็นจุดพลิกผันให้ไฮโซสาวตัดสินใจ สมัครเข้ามาเป็นตำรวจเริ่มต้นยศ ส.ต.ต. หลังจากนั้นสอบเข้าอบรมเป็นนายร้อยตำรวจตามหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลภายนอกที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรรุ่นที่ 42 บรรจุตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ช่วยราชการสำนักงานผู้บัญชาการภูธรภาค 1
“เพชรโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีโอกาสและโชคดีมากกว่าคนหลายคน เพราะฉะนั้นเพชรจะพยายามเตือนตัวเองอย่าสปอยล์ อย่าเหลิง อย่าใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่ทำงานก็ได้ สนุกเฮฮาอย่างเดียว มันไม่ใช่” เป็นสิ่งที่เธอบอกกับหลายคน ดังนั้นการมาเป็นตำรวจย่อมมีส่วนขัดเกลาชีวิตของเธอให้แข็งแกร่งขึ้นและสามารถลบคำสบประมาทเป็นคุณหนูบอบบางอยู่ในสังคมชั้นสูง
“อาชีพตำรวจในความคิดเพชร เป็นอาชีพที่เสียสละ เป็นอาชีพที่ใกล้ชิดประชาชน ตำรวจไทยแตกต่างจากตำรวจหลายๆประเทศตรงที่ตำรวจไทยไม่ได้ทำหน้าที่แค่เพียงจับผู้ร้าย หรือบังคับใช้กฎหมาย แต่เป็นเหมือนที่พึ่งให้ประชาชนได้ในเกือบจะทุกเรื่อง” เจ้าตัวว่า
ย้อนตำนานกำราบมือปืน พ.ต.อ.นนทวัฒน์ ปานแก้ว อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ่อบังเกิดเกล้าถูกยิงตายตอนตัวเองอายุแค่ 10 ขวบ เกือบเข้าสู่วงจรนักเลงหันจับปืนเตรียมล้างแค้นแทนสายโลหิต ผู้เป็นแม่คิดได้ ไม่อยากเห็นอนาคตลูกชายชีวิตดับดิ้นตามสามี ถึงผลักดันให้สอบเป็นตำรวจประเดิมตำแหน่งลูกแถวอยู่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ชีวิตราชการวนเวียนอยู่เพชรบุรี ราชบุรี สัมผัสมือปืนหลากหลายรูปแบบ นำไปสู่การคลายคดีสำคัญในพื้นที่จำนวนไม่น้อย
แม้เส้นทางจะไม่ราบรื่นเมื่อเจออิทธิพลการเมืองท้องถิ่นเล่นงานจนต้องย้ายออกนอกพื้นที่ไประยะหนึ่ง แต่ผู้บังคับบัญชาในสมัยนั้นเห็นฝีไม้ลายมือเรียกกลับมาใช้งานเป็นประจำ ก่อนกลับมาเกษียณบนเก้าอี้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี
“ผมอยู่วงการนี้มานาน ต้องสัมผัสพวกนี้ มือปืนจริงๆ ไม่ใช่คนดุนะ” อดีตมือปราบเมืองเพชรบุรีให้ทรรศนะ
บันทึกนายพลผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา บ้านเกิดอยู่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แต่ชีวิตรับราชการอยู่พื้นที่ภาคใต้ ผ่านคดีบู๊บุ่นสารพัดกระทั่งติดทำเนียบมือปราบ ประวัติโชกโชน ดวลปืนดับโจรนับไม่ถ้วน เป็นชุดเฉพาะกิจสร้างผลงานปราบปรามจนเลื่อนขึ้นเป็นสารวัตรสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขยับอยู่ละแวกเมืองหอยใหญ่ ก่อนไปเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ขึ้นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และหวนมาคุมพื้นที่จังหวัดกระบี่อีกครั้ง
พล.ต.ต.บุญทวีบอกถึงนโยบายการทำงานยึดหลักตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมมุ่งหวังให้ตำรวจทุกคนมีความสุข สนุกกับงาน ปลูกฝังวิสัยทัศน์ของหัวหน้าโรงพักให้รู้จักหน้าที่ตัวเอง ปรับทัศนคติว่า สิ่งที่โรงพักต้องทำ คือ ความสามัคคี ตำรวจมีวินัย ประชาชนก็จะมีความสุข ตำรวจต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ ทำให้ครบ แล้วก็อย่าเบียดบังลูกน้อง อย่าเอาเปรียบ ความสามัคคีของโรงพัก คือ ทำอย่างไรให้มีความรัก ห
ลูกไม้ไม่ไกลต้น “หมวดเฟิร์น” ร.ต.ต.หญิง ญานี วงษ์ปิ่น รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ลูกสาวคนเล็กของนายพลสีกากี “บิ๊กบัว” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้งที่การเป็นตำรวจไม่เคยมีความคิดเลยตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีอคติที่พ่อเป็นตำรวจไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำลูกๆ เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ
พอโตขึ้นมาในวัยทำงาน การได้เห็น ด้สัมผัสอาชีพตำรวจ ทั้งพ่อและพี่สาวถึงเข้าใจว่า อาชีพตำรวจไม่ได้เลวร้ายอะไร ที่ไม่มีเวลาเพราะต้องเสียสละทำเพื่อคนอื่น เพื่อส่วนรวม สังคมและประเทศชาติ เป็นอาชีพที่มีเกียรติและภาคภูมิใจ สามารถสลัดอคติที่ไม่ดีในวัยเด็ก และเจริญรอยตามบิดากับพี่สาวเข้าสอบเป็นนายร้อยอบรม
“เฟิร์นมาเป็นตำรวจตามขั้นตอนและความรู้ความสามารถของตัวเอง โดยที่ไม่ได้ใช้ชื่อเสียง หรือ ยศตำแหน่งนายพลของพ่อมาวิ่งเต้นเพื่อรับราชการตำรวจ อาจจะมีบ้างหากจะมีคนคิดว่าเฟิร์นเป็นเด็กเส้นใหญ่ แต่ก็น่ะ ห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่เรารู้ตัวเองดีว่าเราทำอะไรอยู่ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” ลูกสาวคนเล็กนายพลคนดังระบายความในใจ
เรียนรู้ชีวิตรักของ คุณจั๊ก-ประภาพรรณ ปุรินทราภิบาล อดีตครีเอทีฟ ภรรยาสาวคนเก่งของ ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปุรินทราภิบาล รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ยอมทิ้งงานที่รักตามสามีที่รักลงสมรภูมิใต้ มี น้องจันทร์เจ้า-ปุรินทิรา ปุรินทราภิบาล ลูกสาววัยน่ารักเกิดมาเป็นพยานรักตอบโจทย์ความคิดของคำว่า ครอบครัว และเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน
“หลักประคองชีวิตคู่ จั๊กจะไม่ยุ่งงานของเขา แค่รู้ แต่จะไม่ยุ่ง ไม่ไปแบบว่าแทรกแซง ก้าวก่าย เช่น ไหนบอกว่านายเรียก นายอะไร คือถ้าเขาต้องไป คือต้องไป” แม่บ้านหัวใจแกร่งว่า
ทำความรู้จัก “ปุ้ม”ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ คนข่าวสาวน้อยตัวเล็กหน้าสวยแห่งค่าย จส.100 ขวัญใจหนุ่มๆ ทั้งนักข่าวและตำรวจ ตอนเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารคอนเวอร์เจนซ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คว้ารางวัลข่าวจากหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ เป็นรางวัลเสื้อสามารถของสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย และรางวัลชนะเลิศ รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวสิทธิเด็ก เธอเป็นนักข่าวสาวผู้มุ่งมั่นรักที่จะเลือกทำข่าวสายอาชญากรรม เพราะต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาแล้วแต่สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นประจำวัน โดยมีหลักการทำงานว่า “ทุกคนเริ่มจากความไม่เก่งมาก่อน ดังนั้นเราต้องพร้อมเปิดใจเรียนรู้และพัฒนาให้ดีที่สุด”
และเนื้อหาสาระอื่นเข้มข้นเต็มไปด้วยคุณภาพเหมือนเดิม
วางแผงแล้วตามแผงหนังสือ ซีเอ็ดบุ๊ก และนายอินทร์
