พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,สั่งการ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป., กก.2 บก.ป. และ บก.ทล.,กว่า 80 นาย เปิดปฏิบัติการ “ถอนสมอตี๋ใหญ่ 888” ปูพรมเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 14 จุดในจังหวัดอุบลราชธานี, ศรีสะเกษบุรีรัมย์ และชลบุรี สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้จำนวน 13 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ จำนวน 23 คัน, เอกสารเกี่ยวที่ดิน จำนวน 49 รายการ, ของใช้แบรนด์เนม จำนวน 46 รายการ, ทองคำ จำนวน 5 รายการ, อาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 22 รายการ, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 30 เล่ม, บัตร ATM/เดบิต/เครดิต จำนวน 29 ใบ, พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จำนวน 160 รายการ รวมมูลค่า 50 ล้านบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปิดเว็บพนันออนไลน์ที่ชักจูงประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนและผู้มีรายได้น้อย หลายคนต้องเผชิญกับภาวะหนี้สิน สูญเสียทรัพย์สิน ครอบครัวแตกแยก และบางรายถึงขั้นคิดสั้น ขณะที่อาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะกรณีเด็กและเยาวชนที่เริ่มก่อเหตุรุนแรง เช่น การชิงทรัพย์ หลังเสียพนันหมดตัวจากโลกออนไลน์
หลังรับเรื่องจึงเร่งขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ขบวนการดะงกล่าวคือเว็บพนันตี๋ใหญ่ 888″ เป็นเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เคยถูกกองปราบจับกุมเมื่อปี 2566 แต่ล่าสุดพบกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ใหม่ ลอบนำเงินผิดกฎหมายฟอกผ่านธุรกิจถูกกฎหมาย และจากการตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 50 บัญชี ในระยะเวลาประมาณ 2 ปี มีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 600 ล้านบาท ภายใต้ฉากหน้าเว็บพนัน กลับพบโครงสร้างการเงินที่ซับซ้อน ใช้บัญชีธนาคารในประเทศและ e-wallet ในการรับโอนเงิน ก่อนแยกกระจายไปยัง “บัญชีม้า” ที่มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติ หรือมีความใกล้ชิดกัน แม้แต่ละบัญชีจะมีเงินหมุนเวียนในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่มีเงินคงเหลือในบัญชี
อีกทั้งยอดเงินหมุนเวียนยังขัดแย้งกับลักษณะอาชีพที่แสดงไว้ ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีการทำธุรกิจบังหน้าเพื่อฟอกขาว เช่น รับเหมาก่อสร้าง, บริการเช่ารถ, ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นต้น มีการใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวทั้งหมด 13 ราย ตั้งแต่เจ้าของเว็บ, บุคคลที่ทำหน้าที่บัญชีม้า, แอดมิน, คนทำบัญชี รวมถึงคนเล่นพนัน
ต่อมาจากการสืบสวนพบว่า เจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้เดินทางออกนอกพื้นที่ปฏิบัติการ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดจันทบุรี ก่อนข้ามพรมแดนบ้านผักกาด ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งน่าเชื่อว่าซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศเว็บไซต์พนันดังกล่าว จนมีการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยจนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
สอบสวนเบื้องต้น เจ้าของเว็บไซต์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มบัญชีม้า ที่ยังคงให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาทั้ง 13 ราย “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป