พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.2 บก.ป.จับกุม นายสันทัศน์ อุผำ อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ที่ จ.81/2566 ลงวันที่ 28 กันยายน 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ได้บริเวณริมถนน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ขอความช่วยเหลือผ่านเพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB)” ว่า เมื่อช่วงต้นปี 2566 รู้จักกับผู้ต้องหาซึ่งใช้ชื่อว่า “วัฒน์” อ้างตัวว่าเป็นวิศวกรโยธา สังกัดกรมทางหลวง ประจำอยู่ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ โดยช่วงแรกๆ ได้แสดงพฤติกรรมสุภาพน่าเชื่อถือ พูดจาให้ความหวังเรื่องการสร้างอนาคตร่วมกัน จนกระทั่งมีการนัดพบกันจำนวน 2 ครั้ง ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อสร้างความมั่นใจและตอกย้ำความน่าเชื่อถือในฐานะบุคคลที่มีอาชีพและสถานะมั่นคง
ต่อมาภายหลังผู้ต้องหาได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนก่อสร้างอาคาร โดยอ้างว่ามีโครงการอยู่ในมือ และมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในระยะแรก โดยขอให้โอนเงินผ่านบัญชีชื่อ นายสถิตพลซึ่งอ้างว่าเป็นบัญชีของผู้รับเหมา โดยอ้างว่าไม่สามารถใช้บัญชีของตนเองได้ เนื่องจากนำบัตรเอทีเอ็มไปวางเป็นหลักประกันหนี้ไว้กับเจ้าหนี้รายหนึ่ง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไปให้รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาคืนเงิน ผู้ต้องหากลับเริ่มบ่ายเบี่ยง และสุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาผู้เสียหายได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ชื่อ-ตำแหน่ง ที่ผู้ต้องหาอ้างนั้นไม่มีอยู่จริง จึงรู้ตัวว่าถูกและได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร จนศาลออกหมายจับไว้ พร้อมทั้งได้ร้องขอความช่วยเหลือที่เพจตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) อีกช่องทางหนึ่ง กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับติดตัวในคดีลักษณะเดียวกัน และเคยก่อเหตุโดยแอบอ้างเป็นทหารยศร้อยเอกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นพยาบาลสาว ที่มีมากกว่า 10 รายในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครราชสีมา หนองบัวลำภู และเชียงใหม่ โดยผู้ต้องหารายนี้จะตีสนิท และหลอกเอาทรัพย์สินเงินทองก่อนจะหลบหนีไปหลอกบุคคลอื่นต่อ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหา ได้เคยอาศัยอยู่กับผู้เสียหายอีกรายที่เป็นเยาวชน อายุเพียง 17 ปี อีกด้วย จึงนำตัวส่ง สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
