ชีวิตเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รองสารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ทำหน้าที่ ”สายลับ” แฝงตัวเข้าวัดไร่ขิง ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นาน 8 เดือนหาข่าวรวบรวมหลักฐานกระชากหน้ากากพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสของวัดยักยอกเงิน 300 ล้านบาทไปเล่นพนันออนไลน์
เขาดังชั่วข้ามคืนกลายเป็นกระแสที่มีผู้สนใจติดตามประวัตินายตำรวจฝีมือดี
จากลูกชาวนาเริ่มต้นจากชั้นประทวนฟันฝ่าการฝึกฝนอบรมผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) รุ่น 45 ประจำปีงบประมาณ 2563
ปากกันตีนถีบมาตั้งแต่เด็ก ผู้พ่อลิขิตทางเดินให้เป็นตำรวจ ถึงเลือกตั้งชื่อ “ภูธร” เหตุเพราะเปิดฟังสถานีวิทยุตำรวจภูธรจนคุ้นหู เกิดจังหวัดขอนแก่นเป็นเด็กเลี้ยงควายบ้านนอก เคยทำงานจับกัง หลังจากจบ มัธยมต้องออกจากบ้านมาสู้ชีวิต มีเงินแค่ 200 บาท ทำงานโรงทอผ้าแถวสมุทรปราการเป็นช่างซ่อมจักรแล้วเจอพิษเศรษฐกิจฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 โรงงานถูกยุบ ต้องออกไปเกณฑ์ทหารได้ 2 ปี ตัดสินใจสอบเข้าเป็นนักเรียนตำรวจนครบาล รุ่น 70
บรรจุตำแหน่งพลสำรองพิเศษ งาน 5 กองกำกับการอารักขาและรักษาความปลอดภัย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติพิเศษ ก่อนย้ายลงเป็นผู้บังคับหมู่ (จราจร) สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง หารายได้พิเศษช่วงที่ว่างเว้นจากการทำงาน คือ ขับรถซื้อเศษเหล็กไปขาย กระทั่งนิตยสารชีวิตต่อสู้ผ่านไปเจอระหว่างแต่งเครื่องแบบตำรวจเชื่อมเหล็กอยู่จะชวนไปออกรายการสู้แล้วรวย แต่เขาปฏิเสธเพราะยังไม่รวย
หลังจากนั้นเกิดจุดพลิกผันของชีวิต ขณะเข้าเวรอยู่ตอนเกือบ 2 ทุ่ม เจ้าตัวเล่าว่า มีวัยรุ่นเอาอิฐตัวหนอนขว้างใส่ตู้จราจรกระจกแตกหมด เรานอนอยู่ในตู้ กระโดดออกมาชักปืนไล่ยิงไป 6 นัด ไม่โดนสักนัด เพราะไม่มีความสามารถเรื่องการใช้ปืนดีพอ ได้แต่ฝึกตอนสมัยเรียนเท่านั้น ต่อมาสายตรวจไล่จับคนร้ายส่งพนักงานสอบสวนได้ รีบตื่นเช้าไปถามวินมอเตอร์ไซค์หาสนามยิงปืนละแวกดอนเมือง
“ได้ความว่าเปิดวันแรกที่สนามธูปะเตมีย์ ก็ได้ไปซ้อม ยอมควักกระเป๋าซื้อกระสุนนัดละ 8 บาท เบิกปืนหลวงไป แรก ๆ ยิงไม่เข้าเป้า ไปทุกวัน เจอนักกีฬาทีมชาติเป็นทหารอากาศมาซ้อมยิงปืนเตรียมแข่งภายในกองทัพอากาศ นั่งดูเขาซ้อมอยู่หลายวัน อยากรู้จัก อยากได้วิชาจากเขา เลยลองขออนุญาตไปช่วยติดเป้าให้ ตอนแรกเขาไม่ยอม เพราะเห็นเราเป็นตำรวจ” เจ้าตัวย้อนอดีต
“ตอนหลังเขายอม ผมวิ่งติดเป้าให้อยู่ประมาณ 4-5 วัน โบกรถเสร็จไปวิ่งติดเป้าในสนามจนเขาเห็นความตั้งใจที่อยากจะได้วิชา เพราะผมสารภาพว่า ยิงปืนไม่เป็น ช่วยสอนผมหน่อย เขาแปลกใจ ไม่คิดว่าตำรวจยิงปืนไม่เป็น แต่ตำรวจเรา ผมบอกได้เลยว่า ทุกคนคิดว่า ตัวเองยิงปืนดีแล้ว เก่งแล้ว คิดเสมอว่าตัวเองยิงปืนเป็น แล้วไม่หมั่นฝึกซ้อม ไม่หมั่นหาวิชาความรู้ ตรงนี้ คือ จุดด้อย ทุกคนที่มีปืน คิดว่ามีปืน ยิงปืนได้ แต่พอเจอสถานการณ์จริง ไม่เหมือนกันอย่างที่คิดเลย”
ฝึกซ้อมเก็บตัวอย่างเดียว ไม่ต้องไปคุยกับใครตามแบบแผนที่ครูฝึกวางไว้ ให้ยิงนัดเดียวต้อง 10 เท่านั้น คือ ความลำบากในการซ้อม การมีวินัยของเรา สุดท้ายแข่งยิงปืนปีเดียวได้ 2 เหรียญทองในกีฬาแห่งชาติที่จังหวัดเชียงใหม่
คว้ารางวัลแม่นปืนมากมายในนามทีมชาติ ก่อนประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าแขนหักทำให้ผลงานดรอปลงไป
ยิงปืนนามทีมตำรวจมาตั้งแต่ปี 2546 ไม่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ต่อเนื่อง แต่ได้ความภูมิใจที่เป็นนักกีฬายิงปืนคนเดียวไม่มีปืนเป็นของตัวเอง ทว่ามีผู้ใหญ่สนับสนุน
ปี 2556 เส้นทางชีวิตราชการเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อย้ายไปเป็นผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เปลี่ยนหน้างานมาทำสืบสวน ได้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง สมัยเป็นรองผู้กำกับสอนทักษะการทำงานประกอบกับใช้วิชาครูพักลักจำ เรียนรู้ยุทธวิธีในการจับกุม ยุทธวิธีในการทำงานที่ไม่เคยสัมผัส เพราะเคยแต่โบกรถอย่างเดียว ประเดิมแฟ้มแรกด้วยการลงไปทำคดีฆาตกรรมน้องเปิ้ลที่จังหวัดระนอง
เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากคดีนั้นเอาเป็นตำรานักสืบส่วนตัวก้าวต่อไปในการออกตามตะครุบผู้ต้องหาตามหมายจับเก่าทำตัวเลขสถิติติดอันดับต้น
สะสมวิชาจากนักสืบรุ่นเก่าที่มารุมสอน ทุกคดีที่สำคัญ ลงไปทำหมดจนได้ฉายา “ตำรวจเหล็กของกองปราบปราม” มีผลงานสืบสวนไล่ล่าจับกุมไอ้ตั้ม หรือ เอ็ม มือสังหารโหด “เศรษฐีนีสายบุญ” ยัดตู้เย็น จังหวัดเชียงใหม่ จับกุม “ปุ๊ขาโหด” ฆ่ายกครัว 5 ศพจังหวัดอุตรดิตถ์
จับกุมนาย ณัฏฐกิตติ์ หรือหมี วงศ์อนันต์สุข เจ้าของโรงงานเชือดหมูยิงสารวัตรกำนันราชบุรี พร้อมเพื่อนดับ 2 ศพคางานเลี้ยง รวบนายอำนาจ หรือเก่ง หยาดเพชร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงถล่มบ้านพลโททหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลโล่เกียรติยศ สืบสวนดีเด่น ของกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ประจำปี 2560 รับโล่เกียรติยศสืบสวนคดีสำคัญของกองปราบปราม ประจำปี 2561 โล่เกียรติยศและประกาศเกียรติคุณสืบสวนดีเด่นของกองปราบปรามในวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประจำปี 2562
เขามองว่า งานสืบสวนถือว่า ไปถึงจุดที่เราอยากจะไปทำ เราอยากจะไปจับกุมผู้ต้องหาก็สามารถที่จะหาจนเจอ หมกมุ่นอยู่กับงานลืมแนวคิดติดดาบเลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตรกับเขา แม้ตัวเองจะมีดีกรีปริญญาตรีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
มีความสุขกับการทำงานจนไม่คิดว่า เรื่องยศตำแหน่ง เราทำงาน เรารู้หน้าที่ วัตถุประสงค์ของตำรวจ คือ การเอาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
“การเป็นตำรวจ คือ เป็นผู้พิทักษ์ รับใช้ประชาชน เราเป็นนักสืบ ภารกิจหลักต้องสืบสวนเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ”
กระทั่งมีคุณวุฒิครบหลักเกณฑ์ตามระเบียบของหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร
ปูทาง “ติดดาวบนบ่า” จบออกมาคืนสังกัดเดิม
ทำงานตามสไตล์นักสืบจนปิดแฟ้มคดีสำคัญสำเร็จ
อ่านเรื่องราวของเขาได้ที่ https://www.cops-magazine.com/topic/38767/