พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ต.ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช สว.กก.1 บก.ปคม., จับกุม นายนิธิศ สวนาการณ์ หรือแจ๊ค อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2775/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2568 ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันลามก ,ค้า หรือ เผยแพร่ แจกจ่ายสื่อลามกอนาจาร” โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งภายในซอยโชคชัยร่วมมิตร แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากได้ตรวจพบบัญชีผู้ใช้ แอปพลิเคชั่น X แอ็กเคานต์หนึ่ง ชื่อว่า “@hairjack111” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน โพสต์คลิปวิดีโอลามกอนาจารในลักษณะชายรักชาย พร้อมข้อความโฆษณาชักชวนผู้ที่สนใจให้มาเข้ามาดูคลิปวิดีโอเพิ่มเติมในกลุ่มลับTelegram และแพลตฟอร์ม OnlyFans เพื่อเรียกเก็บค่าสมาชิกโดยไม่มีการจำกัดอายุผู้เข้าชม
เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มลับดังกล่าว จนพบคลิปวิดีโอบางส่วนมีการถ่ายทำอยู่ที่ร้านเสริมสวยของ นายนิธิศ หรือ แจ๊ค ผู้ต้องหารายนี้ ตั้งอยู่ย่านรัชดาภิเษก อีกทั้งในขณะถ่ายทำคลิปวิดีโอนั้น นายนิธิศ ยังมักใช้การแต่งกายด้วยการสวมถุงเท้ายาวสีดำในการถ่ายคลิปวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์เกือบทุกครั้ง จนได้รับฉายาในวงการเซ็กครีเอเตอร์ ว่า แจ็ค ถุงเท้าดำ
นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่า นายนิธิศ หรือ แจ๊ค ยังมีการโฆษณาบริการ “เสริมพิเศษ” โดยใช้ข้อความหรือภาพที่ส่อไปในทางลามกอนาจารเพื่อชักชวนลูกค้าผ่านสื่อโซเชียลมีเดียให้มาเข้ารับชมคลิปลามกอนาจารเวอร์ชันเต็ม รวมถึงเชื่อว่า อาจมีการแฝงบริการทางเพศ ผ่านการทำคอนเทนท์ร่วมเพศกับบุคคล หลากหลายอาชีพ รวมถึงวัยรุ่นชาย ตามสถานที่ต่างๆ จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายนิธิศ หรือ แจ๊คถุงเท้าดำ ขยายผลตรวจค้นภายในห้องพักอาคารประเสริฐสุขเพลส ย่านวิภาวดี ก่อนพบอุปกรณ์สำหรับผลิตสื่อลามกอนาจาร จำพวก กล้องถ่ายวิดีโอ, ไฟสตูดิโอ, sex toys, เสื้อผ้าสำหรับการแสดง และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการถ่ายทำ ตัดต่อ และเผยแพร่เนื้อหาลามกอนาจาร หลายรายการ จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายนิธิศ หรือ แจ๊คถุงเท้าดำ ให้การรับสารภาพว่า เดิมทีตนมีอาชีพหลักเป็นช่างเสริมความงามและช่างสักคิ้ว ต่อมาข่วงหลังได้ทดลองทำคอนเทนท์ที่มีเนื้อหาเชิงลามกอนาจาร แล้วนำไปเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ กลับพบว่า สามารถสร้างรายได้จากการเก็บค่าสมาชิก 40,000 – 50,000 บาทต่อเดือน จึงหันมาทำอย่างจริงจังควบคู่กับกิจการร้านเสริมสวย รวมถึงใช้สถานที่ หรือ อุปกรณ์บางส่วนภายในร้านไปใช้ในการถ่ายทำคลิปวิดีโอ
นายนิธิศ เปิดเผยถึงที่ไปที่มาของฉายา “แจ๊คถุงเท้าดำ” ว่า มาจากการที่ตนมักชอบสวมถุงเท้าดำเข้าฉาก ที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อต้องการสร้างคาแรคเตอร์ให้คนจดจำได้ง่ายขึ้น จนกลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “แจ๊ค ถุงเท้าดำ”นายนิธิศ ให้การเพิ่มเติมอีกว่า เริ่มทำคอนเทนท์ดังกล่าวมาประมาณ 1 ปี มีรายได้รวมกว่า 8 แสนบาท ปัจจุบันตนมีผู้ติดตามกว่า 2 แสนราย แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมา ไม่เคยมีการนำเด็กหรือเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี มาร่วมผลิตเนื้อหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด เนื่องจากพบว่ามีการเปลี่ยนคู่แสดงหลายรายและบางคนมีลักษณะคล้ายเยาวชน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติของผู้ร่วมแสดงทุกรายอย่างละเอียด เพื่อสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป