บิ๊กจวบ นำกำลัง ตำรวจ ปคบ. – นครบาล บุกรวบนายทุนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ตั้งศูนย์กลางกระจายสินค้ากลางเมืองกรุงมีฐานลูกค้าทั่วประเทศ เงินหมุนเวียนนับร้อยล้าน พร้อมยึดของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ , พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1บก.ปคบ., พ.ต.ท.วิศรุด บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. นำกำลังพร้อมหมายค้นของศาลอาญาพระโขนงที่ ค56/2568 ลงวันที่ 28 พ.ค. 68 ให้เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 22/24 และ 62/25 โครงการ โฮมออฟฟิศ เอช – เคปบิซเซ็คเตอร์ ถนนสุขาภิบาล ๒ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพ ฯ
สามารถ จับกุม นายธรณ์นนท์ ปัญญาดี อายุ 41 ปี พร้อมพวกอีก 10 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้งประมาณ 11,000 ชิ้น , น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติม ประมาณ 35,000 ชิ้น , คอยร์บุหรี่ไฟฟ้า ประมาณ 5,000 ชิ้น , น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว ประมาณ 51,000 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 50,000,000 บาท
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มไลน์ลับ ใช้ชื่อว่า “นายเขียวขจี” ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ลักลอบจำหน่ายหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า และ บุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆ รายใหญ่ มีลูกค้าติดต่อสั่งซื้อจากทั่วประเทศ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะถูกจัดส่งในรูปแบบกล่องพัสดุผ่านบริการขนส่งเอกชนต่างๆ หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแส จนกระทั่งทราบว่าร้านดังกล่าว มีการเช่าอาคารพาณิชย์ในโครงการเคปบิซเซ็คเตอร์ ริม ถ.สุขาภิบาล 2 ไว้เป็นสำนักงาน จัดเก็บสินค้า หรือ สถานที่แพ๊คสินค้ารอจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น
เมื่อไปถึงพบสถานที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา สูง 4 ชั้น ตั้งอยู่ติดกัน พบนายธรณ์นนท์ ผู้ต้องหารายนี้แสดงตัวเป็นผู้ครองครอง หรือ ผู้ดูแล เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นจากศาลเพื่อขอเข้าตรวจค้นภายใน พบภายในอาคารถูกดัดแปลงโกดังจัดเก็บสินค้า บนชั้นวางของเต็มไปด้วยกล่องลังบุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆจำนวนมาก โดยมีกลุ่มพนักงานรวมประมาณ 10 คน กำลังช่วยกันแพ๊คของ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัว นายธรณ์นนท์ มาทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายธรณ์นนท์ ให้การรับสารภาพว่า บุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง ซึ่งตนได้ซื้อต่อมาจากชาวจีนอีกทอดหนึ่ง เพื่อนำมากระจายขายต่อให้กับลูกค้ารายย่อยหรือผู้ที่สนใจผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทำมานานกว่า 2 ปี มีรายเฉลี่ย 3 ถึง 5 แสนบาทต่อวัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายธรณ์นนท์ ยังพบว่า ในช่วงเวลาปี 1 มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, ซ่อนเร้น จำหน่าย ซึ่งสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป