ออกมาดีเดย์กวดขันวินัยจราจรทั่วประเทศเคาะระฆังเตือนเสียงดังกึกก้อง
พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” เสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน
บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร
เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งของสถานศึกษาอยู่หลายแห่งรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในทุกมิติ
กระทั่งเกิดการต่อต้านจากผู้ใช้รถใช้ถนนไม่สนหลักกฎหมาย
เพจ พ.ต.ท.สุริยา แป้นเกิด นายตำรวจมือสอบสวนคนดังแสดงความเห็นตรงประเด็นที่สุด
ระบุปากว่ากฎหมายไทยมันอ่อน แต่เมื่อรัฐสภาออกกฎหมาย เพิ่มโทษเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่รถ
หลายคนออกมาต่อต้าน แม้กระทั่ง “อดีตตำรวจคนหนึ่ง”
แทนที่จะแนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมาย บางคนกลับมาด่าทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกที่แก้ไขเพิ่มโทษมาตั้งแต่ปี 2565
ไม่ใช่เพิ่มโทษแค่กับหมวกกันน็อก ยังเพิ่มโทษเกี่ยวกับขับรถเร็ว ไม่หยุดรถข้ามทางม้าลาย เมาแล้วขับ
กระทำผิดซ้ำไม่เกิน 2 ปี
เขาบอกเลยว่า ตั้งแต่ทำสำนวนคดีมา
มีตายเพราะอุบัติเหตุบนถนนมากกว่าฆ่ากันตาย
“ไม่อยากถูกปรับแค่สวมหมวกกันน็อก คาดเข็มขัด ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่เมาแล้วขับ”
ถ้าลูกหลานคุณตาย เพราะไม่สวมหมวกกันน็อก แพงกว่าซื้อหมวกกันน็อก หรือขับรถชนคนไม่สวมหมวกตาย
“แม้คุณจะเป็นฝ่ายถูก คุณก็จะปวดหัว ฝ่ายตรงข้ามก็จะไม่ยินยอม”
นักกฎหมายทั้งหลายควรแนะนำให้เขามาตามกฎหมายไม่ใช่ให้ไป “ต่อต้านตำรวจ”
คิดแต่ว่าตำรวจจะเพิ่มรายได้
กฎหมายบอกปรับไม่เกิน 2,000
ไม่ได้หมายความว่าต้องปรับ 2,000 บาท
น้อยกว่าก็ได้อยู่ที่ดุลพินิจความเหมาะสม