พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการเน้นหนัก ให้หน่วยงานด้านการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมของ สตม. สืบสวนหาข่าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม.
พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขานรับนโยบาย ผบช.สตม. หลังล่าสุดได้รับข้อมูลสายข่าว
เกี่ยวกับพฤติกรรมการถ่ายถอดสดการขายของออนไลน์ผ่านช่องทางแอปพลีเคชั่นออนไลน์สัญชาติจีน ชื่อ DOUYIN (โต่วอิน) และสถานที่การถ่ายทอดสดการขายของ ศูนย์การค้าชื่อดัง บนถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร
จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน และสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางร่วมกันตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการดาวโหลดแอปฯ ดังกล่าว โดยปกปิด ip address ผ่าน VPN เพื่อเข้าไปชมการถ่ายทอดสด พบเป็นกลุ่มคนต่างด้าวกำลังถ่ายทอดสดผ่านชื่อบัญชีภาษาจีน ซึ่งเป็นการเข้าชมได้แบบสาธารณะจากประเทศจีน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังแฝงตัวเข้าไปดูสถานที่ตั้งดังกล่าว ซึ่งเป็นร้านที่มีลักษณะเป็นห้องกระจกเปิด ภายในร้านขายเครื่องสำอาง และสมุนไพรไทยต่าง ๆ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 2140 ชั้น 2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป
เมื่อมาถึงที่ด้านหน้าร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่เห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวจีน กำลังทำงานถ่ายทอดสดการขายของประเภทสินค้าทั่วไปอยู่ภายในร้าน จึงทำการพิสูจน์ทราบโดยการสังเกตคำพูดและเปรียบเทียบจากแอปพลิเคชั่นที่กำลังถ่ายทอดสด ปรากฎว่าเป็นสถานที่เดียวกันและเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันซึ่งแบ่งหน้าที่กันทำงาน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนต่างด้าวกระทำผิดจริง จึงได้ทำการจับกุมคนต่างด้าวชาวจีน 14 คน โดยมีชาวจีน 1 รายเป็นกรรมการผู้จัดการ แสดงตัวเป็นนายจ้าง ผู้ดูแลสถานที่ ไลฟ์สดในร้านดังกล่าว เจ้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาติ“ ส่วนอีก13 ราย ถูกแจ้งข้อหา ” เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิจะทำได้”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด สินค้าหลายรายการ เช่น แชมพูสกัดจากขิง สบู่ ลิปสติก ครีมอาบน้ำ ยาดม ครีมบำรุงผิว น้ำหอม และอื่น ๆ อีกกว่า 80 รายการ เพื่อตรวจสอบการจดแจ้ง และการขออนุญาตจำหน่ายจากหน่วยงานที่มีมีอำนาจ หากพบว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562
รวมถึง พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจโทภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้สั่งการเด็ดขาดว่า ให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดและขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีเบาะแสหรือข้อมูล สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่หมายเลข 1178 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง