พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ ,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. ร่วมแถลงชี้แจงกรณีการจัดเก็บเงินสดจำนวน 6 ล้านบาทของกลางคดีสารวัตรซัวพัวพันเว็บพนันออนไลน์
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า เงินสดจำนวน 6 ล้านบาท ที่นำมามอบให้กองปราบตรวจสอบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ผ่านมา 3 ปี ยังไม่ได้รับคืน อยากขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2566 มีบุคคลนำเงินสดมาวางให้นายชูวิทย์ จำนวน 6 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะออกมากล่าวอ้างว่าเงิน 6 ล้านบาทดังกล่าวเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ขณะเดียวกัน ณ เวลานั้น นายชูวิทย์ เองก็ให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสื่อมวลชนต่างๆเองว่า เป็นเงินสารวัตรซัว เจ้าพ่อเว็บพนันออนไลน์ แต่ได้นำไปบริจาคต่อให้กับโรงพยาบาลแล้ว
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากนั้นไม่นาน นายอัจฉริยะ ก็ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายชูวิทย์ ในความผิดฐานฟอกเงิน ทางด้าน นายชูวิทย์ จึงนำเงินดังกล่าวมามอบให้กับทางตำรวจกองปราบดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นเงินของใคร มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ประกอบกับภายหลังพนักงานสอบสวนกองปราบได้รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดี เงินที่นายชูวิทย์ นำมามอบให้ตรวจสอบไว้นั้นจึงเปลี่ยนสถานะเป็นเงินของกลางในคดีอาญา หลังจากนั้นกองปราบเองก็ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนขึ้นมา ซึ่งขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า กรณีที่ นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ทำไมตำรวจกองปราบ จึงยังเก็บเงินไว้ไม่ยอมส่งคืน อยากเก็บไว้ใช้เองหรือไม่ นั้น อยากขอชี้แจงว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด และ ได้ข้อยุติว่าเงินของกลางนี้เป็นของใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร และเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ และ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2 ปี นายชูวิทย์ ได้กล่าวอ้างว่าเงินก้อนนี้มาจากสารวัตรซัว แต่ก็มีอีกหนึ่งบุคคลมาแสดงตัวว่า นำเงินก้อนนี้มามอบให้นายชูวิทย์เพื่อให้ไปบริจาคต่อ จึงทำให้ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม
“ขณะนี้คดีดังกล่าวมีการเรียกสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆำไปแล้ว 16 ปาก คดีมีความคืบหน้าไปกว่า 90% ส่วนที่ทางตำรวจยังไม่สามารถคืนเงินให้กับนายชูวิทย์ได้ เพราะจะต้องตรวจสอบให้ได้ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนตามที่กล่าวข้างต้น อีกทั้งมี ปปง. เข้ามาทำงานร่วมกันด้วย”
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวถึงอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การตรวจสอบช้า เนื่องจากเงินดังกล่าว เป็นเงินสดที่ถูกแปรสภาพ โดยนายชูวิทย์นำไปบริจาคให้ 2 โรงพยาบาล และเมื่อโรงพยาบาลรู้ว่าเงินก้อนนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดจึงนำมาให้คืน ทำให้ยากต่อการพิสูจน์ ซึ่งเงิน 6 ล้าน ขณะนี้อยู่ในบัญชีธนาคารของกลาง ของมกก.1 บก.ป. และ ได้แจ้งไปยังปปง. เพื่อให้พิจารณาตรวจยึดอายัด เนื่องจากต้องสงสัยว่าได้มาจากการพนันที่เป็นความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน
“อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในเดือนหน้าสำนวนจะเสร็จสิ้น และยืนยันว่าการออกมาชี้แจงครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับที่นายชูวิทย์มาทวงถามแล้วเราจึงออกมา เราทำคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากนายชูวิทย์อยากได้รับเงินคืน ก็สามารถทำเรื่องขอรับเงินคืนได้ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องให้การตรวจสอบสิ้นสุดก่อน ถึงจะได้รับเงินคืน ส่วนความคืบหน้าของคดีสารวัตรซัว มีผู้กระทำผิดทั้งหมด 9 คน ศาลพิพากษาไปแล้ว 4 คน ส่วนอีก 1 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตำรวจไปรับตัวมาจากเวียดนามเพื่อดำเนินคดีทราบว่าเป็นหญิงสาวคนสนิทของสารวัตรซัว ส่วนตัวสารวัตรซัว อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ซึ่งสารวัตรซัวนั้น เชื่อว่าหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ขณะนี้มีการออกหมายแดงไว้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเจ้าตัวอยู่ประเทศใด แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่าสารวัตรซัวกลับเข้ามาที่ไทย ส่วนคดีนี้จะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อไป” ผบก.ป. กล่าวทิ้งท้าย