ปคบ. ร่วม อย. กวาดล้างโรงงานยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ มูลค่าของกลางกว่า 22 ล้านบาท เผยผลิตไม่ถูกสุขลักษณะอันตรายต่อผู้บริโภค

พล.ต.ต. พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) พร้อมด้วยเภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่าย ผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่

หลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด ใน 4 จังหวัด โดยสามารถตรวจยึดอายัด ยาแก้ไอปลอม ยี่ห้อ “ดาทิสซิน” ยี่ห้อ “ALLERGIN SYRUP” และ ผลิตภัณฑ์อาหารปลอม น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นราสเบอร์รี่ จำนวนกว่า 92,100 ขวด สติ๊กเกอร์ยาปลอม และอาหารปลอมจำนวนกว่า 295,000 ดวง รวมถึงวัตถุดิบอุปกรณ์ในการผลิตจำนวนมาก ซึ่งหากนำไปผลิตเป็นยาสำเร็จรูปได้ทั้งหมด จะมีมูลค่ากว่า 22,000,000 บาท

พล.ต.ต. พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้มีการเฝ้าระวังการใช้กลุ่มยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ หรือยาบางชนิดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมา ผสมกับน้ำกระท่อมดื่มเพื่อความสร้างความมึนเมาและเสพติดเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกกันว่า 4X100 ส่งผลให้เกิดการลักลอบผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการเสพยาเสพติดชนิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้ กลุ่มวัยรุ่นยกระดับการเสพสารเสพติดในรูปแบบอื่นที่รุนแรงมากขึ้นได้ ถือเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จึงเข้าตรวจค้น 5 จุด 4 จังหวัด ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยได้ลงพื้นที่ร่วม อย. ตรวจร้านขายยากลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ซึ่งพบยาปลอมในร้านขายยา จากนั้นจึงเฝ้าระวังกวาดล้างร้านขายยาพบยาแก้ไอปลอมชนิดดังกล่าวจำหน่ายจำนวนมาก จึงสอบสวนหาแหล่งที่ผลิตจนถึงต้นตอโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือนจึงสามารถทลายโรงงานและจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่ได้

จากการสืบสวนหาข่าวพบว่า มีการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม 2 กลุ่มเครือข่ายมีการลักลอบผลิตและบรรจุอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด จึงได้เข้าตรวจค้นจำนวน 5 จุด ดังนี้ 1.สถานที่ผลิตและแบ่งบรรจุ โกดังไม่ทราบเลขที่ ม.7 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 2.สถานที่ผลิต(ต้มยาแก้ไอ) โกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยหมู่บ้านศรีเพชรการเคหะ ต.บางเมืองใหม่ อ. เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดวัตถุดิบ ขวดบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ในการผลิต ที่ใช้ในการต้มยาแก้ไอ โดยทั้ง 2 จุดดังกล่าวมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น

3.สถานที่ผลิตและบรรจุ บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 6 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ซึ่งมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน 4.โกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม 5.โกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.ลำไทร อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า มีนำส่วนผสมวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่างๆ มาลักลอบผลิต จากนั้นจะนำมาแบ่งบรรจุลงขวดอีกแห่งหนึ่ง โดยมีแรงงานต่างชาติเป็นคนงาน โดยจะย้ายสถานที่ผลิตไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากแก่การติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจำหน่ายยาแก้ไอปลอมนี้ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี และ พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าทำการตรวจค้นไปแล้วเมื่อต้นเดือน สิงหาคม 2567 และเดือนมกราคม, เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ยังกระทำผิดซ้ำซากโดยไม่คำนึงถึงความ ปลอดภัยของผู้บริโภค หวังแต่ผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ สร้างปัญหาให้แก่สังคมส่วนรวม

ด้านนางสาวตรีชฎา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนทั้งด้านการให้บริการสุขภาพและด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน หรือไม่ปลอดภัย จึงต้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด กวาดล้างตั้งแต่ต้นตอของปัญหายาเสพติด ด้วยการจับกุมสถานที่ผลิตเถื่อน หรือร้านขายยากลุ่มเสี่ยงและเภสัชเถื่อนที่มีการขายยาน้ำ แก้แพ้ แก้ไอให้กับวัยรุ่นนำไปผสมสารเสพติดและน้ำกระท่อม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่การใช้ยาเสพติดชนิดที่รุนแรงขึ้นใน กลุ่มเยาวชน และก่อให้เกิดปัญหาภัยสังคมตามมาเป็นลำดับ

ขณะที่ภก.เลิศชาย กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการนำยาแก้แพ้และยาแก้ไอมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไป ผสมในเครื่องดื่ม “4×100” ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เนื่องจากพบว่ามีการลักลอบผลิตยาน้ำปลอมจำนวนมาก โดยสถานที่ผลิตเหล่านี้ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) และไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ อย. ได้ประสานความร่วมมือกับ บก.ปคบ. ในการเฝ้าระวัง และปราบปรามการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาปลอมอย่างต่อเนื่อง 

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยาแก้ไอ เป็นยาที่ประชาชนจะใช้รักษาเยียวยาเมื่อป่วยไข้อันดับแรก หากรับประทานยาปลอมที่ ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีตัวยาเป็นส่วนผสมอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผล หรือเกิดการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก การบริโภคยาไม่ได้มาตรฐาน จึงควรเลือกซื้อยาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ หรือจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมาย มีเภสัชกรปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นหลักประกันว่ายาที่จะได้รับมีคุณภาพ มาตรฐาน ทั้งนี้ บก.ปคบ.จะดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ผลิตและขายยาปลอม รวมถึงกวาดล้างผู้ที่ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับ อนุญาตให้ถึงที่สุด โดยประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน10,000 บาท. “ผลิต และขายยาปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 50,000 บาท พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ฐาน “ผลิต และขายอาหารปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 100,000 บาท
และหากตรวจพบยาแผนปัจจุบันจัดเป็น “อาหารไม่บริสุทธิ์” โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่ เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

RELATED ARTICLES