ขนส่งแจงเหตุผลปรับโทษไม่พกใบขับขี่สถานหนัก

เมื่อเกิด  ประเด็นหัวร้อน ปลิวว่อนลั่นโลกออนไลน์ถึงข้อถกเถียง เรื่องอัตราโทษกรณีไม่มีใบอนุญาตขับรถ

กรมการขนส่งทางบก ตัวตั้งตัวตี (ไม่ใช่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมาย) ออกโรงมาแจงเหตุผลทันควัน

ยืนยันต้องการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างวินัยการขับขี่ ลดสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากการไม่มีใบอนุญาตขับรถ

หวังเพิ่มความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม

ตามที่ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุไว้ว่า กฎหมายด้านการขนส่งทางบกฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้บังคับใช้มาตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2522 จำเป็นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติรถยนต์ พุทธศักราช 2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พุทธศักราช 2522 ให้มีความทันสมัย

เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีส่วนในการสร้างความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม

เนื่องจากข้อมูลศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย พบว่า กลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ มีโอกาสการเสียชีวิตร้อยละ 34 สูงกว่ากลุ่มผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ถึงสองเท่า  

เช่นเดียวกับข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า เด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 15-19 ปี เป็นกลุ่มอายุที่มีการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงสุดเฉลี่ยปีละ 1,688 คน

อีกทั้งยกข้อมูลศึกษาจากต่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เช่น ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา พบกรณีความผิดเกี่ยวกับการขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถในประเทศญี่ปุ่น มีโทษปรับไม่เกิน300,000 เยน (88,000 บาท) หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี และถูกตัดแต้ม 12 คะแนน ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา มีโทษปรับไม่เกิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (800,000บาท) หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี และถูกบันทึกประวัติตลอดชีวิตด้วย

ดังนั้นเพื่อให้ผู้ขับขี่ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ พุทธศักราช 2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พุทธศักราช 2522

รวมเข้าเป็นฉบับเดียวกัน

ปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมายให้เป็นเครื่องมือในการควบคุมกำกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ให้มากขึ้น และปรับบทลงโทษกรณีผู้ขับขี่กระทำผิด

ความผิดเกี่ยวกับ การขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตขับรถ เสนอให้ปรับโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท จากเดิมที่ปัจจุบันตามพระราชบัญญัติรถยนต์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท และพระราชบัญญัติขนส่ง จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท  

ส่วนความผิดเกี่ยวกับ การขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต ปรับโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท จากเดิมตามพระราชบัญญัติรถยนต์มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท พระราชบัญญัติขนส่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และพระราชบัญญัติจราจร มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ ไม่เกิน 40,000 บาท

ส่วนความผิดเกี่ยวกับ การขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ปรับโทษสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท จากเดิมตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และพระราชบัญญัติขนส่ง ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

รองอธิบดีกรมขนส่งทางบกบอกว่า ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฉบับใหม่อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา

“การเสนอแก้ไขปรับเพิ่มโทษกรณีความผิดดังกล่าวจะทำให้การพิจารณาโทษตามฐานความผิดอยู่ในดุลพินิจของชั้นศาล ผู้ขับขี่จะได้ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจรมากขึ้น”   

อย่างไรก็ตาม นายกมลมองว่า การเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น ส่วนสำคัญอยู่ที่ผู้ขับขี่ ต้องตระหนักถึงความปลอดภัยและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังอย่างทั่วถึง

รับทราบทั่วกันนะ !!!

RELATED ARTICLES