ไม่ได้ปิดปากตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ

การดำเนินคดี พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย โกงเงินลูกน้องในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยยังคงดำเนินการต่อไป

ท่ามกลางความหวังจะตามเอาเงินคืนแก่ครอบครัวผู้เสียหายที่หลายคนกำลังจะอดตาย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ในฐานะประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรเลย คนปัจจุบัน พยายามทำเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อยแก่สมาชิกทุกนาย

เรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าตัวยืนยัน ไม่ได้ปิดปากตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ ในการให้ข่าวต่อสื่อมวลชน

ตามหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแถลงข่าวมาถึงบรรณาธิการนิตยสาร COP’S กรณีนำเสนอข้อมูลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ผ่านเว็บไซต์ www.cops-magazine.com ที่ระบุว่า พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย สั่งข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่ตกเป็นเหยื่อนายพลโกง “ปิดปาก” ไม่ให้ระบายความอัดอั้น

เพราะอยากรักษาภาพองค์กร

ตำรวจภูธรจังหวัดเลยขอเรียนว่า พล.ต.ต.สุพิเศษ เอกศิริ ไม่ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อปิดปาก หรือห้ามไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด

เป็นเพียงการสั่งกำชับการปฏิบัติตามวิทยุสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุดที่ 0001(ศปก.ตร.)/53 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2561 เรื่องกำชับแนวทางการปฏิบัติในการให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์อย่างเคร่งครีด

หากไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนจนประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจะถูกดำเนินการทางการปกครอง

เอกสารชี้แจงของตำรวจภูธรจังหวัดเลย ระบุอีกว่า มาจากเรื่องเกี่ยวกับการนำผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยแต่อย่างใด

เนื่องจากเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา มีการแถลงข่าวและนำผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพของสถานีตำรวจภูธรวังสะพุง จังหวัดเลย มีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหนังสือสั่งการ

พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย จึงได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติตามหนังสือสั่งการดังกล่าวให้หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลย และหน่วยงานสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเลยทราบ

ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 30 พุทธศักราช 2556 ข้อ 2.4 เรื่อง ห้ามจัดให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำข่าวขณะเมื่อมีการนำผู้ต้องหาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

 

RELATED ARTICLES