ที่สุดก็มีวันนี้

บทพิสูจน์คดี “นายพลโกงเงินลูกน้อง” ต้องให้ถึงที่สุด

ไม่ใช่ลูบหน้าปะจมูกช่วยเหลือกัน

หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศ “ฟันไม่เลี้ยง” ถึงกลายเป็นชนวนเร่งเร้าเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย และ พ.ต.อ.เฉลิมพล ยอมประทุม ผู้กำกับการอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ออกจากราชการไว้ก่อน

เพราะพบพฤติกรรมมัวหมองมีหลักฐานการกระทำผิด “ฉ้อโกงประชาชน” ชัดเจน

หลังจากตำรวจภูธรจังหวัดเลย 192 นายตบแถวเข้าร้องทุกข์เจ้านายเก่าชักจูงร่วม “โครงการบริหารหนี้” ด้วยการกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยรวมกว่า 229 ล้านบาท เพื่อปิดบัญชีหนี้เน่ากับสถาบันการเงิน

สุดท้ายกลับถูกอดีตผู้บังคับบัญชานำเงินทั้งหมดไปเล่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์

ตกเป็นข่าวฉาวในวงการสีกากี

ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีที่ยังล่าช้า ผลกระทบต่อตำรวจชั้นผู้น้อยในฐานะผู้เสียหายได้ลุกลามไปถึงครอบครัวเมื่อขาดเงินจุนเจือเพราะต้องหักไปชำระหนี้ที่คั่งค้างหลายตัว ทำให้หลายครอบครัวอยู่ในสถาวะตึงเครียด

บางคนถึงกับคิดฆ่าตัวตาย

หลายคนรับไม่ได้กับเจ้านายใจอำมหิต ทำตัวเองติด “ร่างแห” ไม่ต่างปลาเน่านอนลอยรอวันตายกันเป็นแพ

ท้อแท้สิ้นหวัง

อาการหนักสุดเกิดขึ้นกับ ร.ต.อ.สมเผ่า โพธิ์ศรี อายุ 60 ปี รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปากชม จังหวัดเลย เหยื่อที่เข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย

เครียดหนักจนเส้นเลือดในสมองแตก

นางวรวีร์ โพธิ์ศรี ภรรยาวัย 58 ปี ต้องหามส่งโรงพยาบาลปากชม แต่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ดีพอ จำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจังหวัดเลย แต่อาการหนัก แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ด้วยเพราะเป็นการแตกที่ก้านสมอง

โอกาสรอดริบหรี่

มีเพียงภรรยากับลูกสองคนที่เฝ้าไม่ห่างเตียงได้แต่ภาวนาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับสามี

เธอแทบจะยังทำใจไม่ได้น้ำตานองหน้าเล่าว่า สามีเข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยจนตกเป็นหนี้สินกว่า 1,000,000 บาท แต่ไม่เล่าอะไรให้ฟังมากนัก กระทั่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ดาบตำรวจพิส ศีรษะ อายุ 47 ปี ผู้บังคับหมู่ปราบปรามโรงพักเดียวกันโทรมาบอกว่า ธนาคารมายึดที่นาที่ไปค้ำประกันเงินกู้แล้ว

เป็นสาเหตุให้ ร.ต.อ.ทรงเผ่า โพธิ์ศรี เกิดความเครียดหนัก นอกจากตัวเองมีหนี้สินเพิ่มไม่รู้จะหาคืนจากไหนแล้วยังมีส่วนให้ตำรวจรุ่นน้องที่นำที่นามาค่ำประกันเดือดร้อนไปด้วย

ทั้งที่ความจริงกำลังจะเกษียณอายุราชการรอกินเงินบำนาญในบั้นปลายชีวิตสิ้นเดือนกันยายนนี้

มันคือ ความโหดร้ายของเจ้านายคนเดียว 

 

 

RELATED ARTICLES