กำเนิดใหม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเริ่มต้นขึ้นในวันนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2541 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาโอน กรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
มีการบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
ยกระดับเทียบเท่ากระทรวง หวัง “ปลดแอก” จากอำนาจทางการเมืองที่ครอบงำ “ทุ่งปทุมวัน” มานาน นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบประชาธิปไตยพุทธศักราช 2475
รูดม่านปิดฉาก “กรมตำรวจ” ที่ยืนยาวมากว่า 66 ปี
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก กลายเป็น อธิบดีกรมตำรวจคนสุดท้าย และถูกบันทึกเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรก
ตลอด 20 ปี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างมากมาย แต่ไม่อาจหลุดหายไปจาก “อุ้งมือ” ของอำนาจทางการเมือง
แม้จะขึ้นตรงกับผู้นำรัฐบาลเพียงคนเดียว
ทว่าความเขี้ยวของผู้ครองอำนาจที่จ้องปาดหน้าเค้กก้อนโตของ “สำนักปทุมวัน” ยังคงสลับผลัดเปลี่ยนกันส่ง “สมุน” ลงมาละเลงกัน “ปากมัน”หลายยุค
สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อาจยืนสง่างามได้ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตัวเอง และจำเป็นต้อง “ก้มหัว” กลัวเกรงอำนาจเหล่านี้มาตลอด 20 ปี
20 ปีที่เปลี่ยนแปลงเก้าอี้ “แม่ทัพ” จำนวนไม่น้อย
เริ่มต้นที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เจ้าของฉายา “หลิวลู่ลม” ที่สื่อมวลชนตั้งให้ ต้องพ้นเก้าอี้ไปตามแรงผลักทางการเมืองก่อนเกษียณอายุราชการ เปิดทางให้เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 18 อย่าง พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ เสียบเก้าอี้แทนจนเกษียณ
นาฏกรรมบนเวทีสีกากีบทใหม่บรรเลงอีกครากับการมาเป็น “พิทักษ์ 1” ของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 20 แต่ไม่อาจประคองสนองความต้องการของผู้กุมอำนาจทางการเมืองได้รอดฝั่ง
สู่ยุค พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 22 อดีตผู้นักรบป่า ได้นั่งยอดบัลลังก์หน่วย ทำท่าจะไปได้สวย แม้จะมีเหตุการณ์ผันแปรในรัฐประหาร 2549 ก็ได้รับความไว้วางใจบริหารราชการต่อถึงปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการเพียงไม่นานเจอพิษการเมือง “พ้นเก้าอี้” อีกจนได้
วงจรอาถรรพณ์ของ “แม่ทัพสำนักปทุมวัน” วนเวียนเป็น “หนามพิษ” ทิ่มแทงอกตกเก้าอี้กันในเวลาต่อมา ตั้งแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 24 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25
ก่อนถึงยุคสุญญากาศ “ไร้หัว” ตัวจริง นามเรียกขาน พิทักษ์ 1 เว้นว่างเกือบปี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 เป็นแค่ “ผู้นำขัดตาทัพ” ที่ไม่อาจขยับมานั่งเต็มก้นจวลจนตัวเองเกษียณ
ถึงได้ พล.ต.อ.วิเชียรพจน์ โพธิ์ศรี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 ก้าวขึ้นมาสวมบทแม่ทัพเพียงปีเดียว “ถูกเด้ง” เปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจอบรมคนแรกในประวัติศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้ขึ้นเป็น “ผู้นำหน่วย” จนวันเกษียณอายุราชการ
มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 29 นั่งเก้าอี้ผู้นำคนถัดมา แต่โชคชะตาของสำนักปทุมวันยังคงเล่นตลก อำนาจการเมืองเป่า “ตกเก้าอี้” ไปอีกราย ก่อนจะได้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 มาทำหน้าที่ปีเดียวครบเกษียณอายุราชการ
เส้นทางแม่ทัพของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 จึงเริ่มต้นขึ้นจนมาถึงปัจจุบัน สู่ปีที่ 4 บนเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์ นั่งตำแหน่งนานที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนจะยาวไปถึงวันเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2563 หรือไม่
ต้องจับตาดูกันต่อไป
