มีดราม่ากันหอมปากหอมคอตามธรรมชาติของโลกไซเบอร์
สิบตำรวจตรีหนุ่มจบใหม่มาเป็นตำรวจตามล่าฆาตกรสังหารพ่อตัวเอง
ทำเอาเจ้าตัวไม่สบายใจ
ข้อเท็จจริงที่เริ่มต้นมาจากการติดตามจับกุม นายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง อายุ 54 ปี แก๊งคนร้ายปล้นฆ่า นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ และนายชาณี ทองหญีต ชิงรถบรรทุกแล้วนำศพหมกบริเวณสระน้ำริมทาง บ้านท่าตะเภา ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เหตุเกิดเมื่อเดือนธันวาคม 2541 แต่กว่าจะพบศพเหยื่อเมื่อปี 2551 กระทั่งคนร้ายถูกตามจับกุมได้ที่สวนปาล์มเขตตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ก่อนคดีหมดอายุความเพียงเดือนเดียว
ผู้ร่วมจับกุมคือ ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ลูกชายของ นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ เหยื่อปล้นฆ่าอำมหิตเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
เขาเข้ารายงานตัวกับ พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธิธาคณานนท์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ถึงเบื้องหลังข่าวที่เกิดขึ้น
ยืนยันว่าทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้มีปมแค้นส่วนตัวที่ต้องสะสางแทนพ่อ
สิบตำรวจตรีหนุ่มแจงเพิ่มเติมต่อสื่อมวลชนที่ไปดักสัมภาษณ์ด้วยว่า ตั้งใจเข้ามาเป็นตำรวจ เพราะมีความชื่นชอบในอาชีพนี้
ประกอบกับแม่เล่าให้ฟัง
พ่อต้องการให้เขาเป็นตำรวจ
ส่วนเรื่องที่พ่อถูกฆ่า เจ้าตัวว่า เกิดขึ้นระหว่างตัวเองอายุแค่ 1 ขวบเศษ ไม่ทราบอะไร และคิดมาตลอดว่า พ่อที่เลี้ยงดูมาเป็นพ่อแท้ ๆ มารู้ความจริงตอนอายุ 14-15 ปี ว่า พ่อที่แท้จริงเสียชีวิตไปแล้วจากการถูกโจรลวงไปปล้นฆ่า
ตอนนั้นคิดว่าคนร้ายที่ฆ่าพ่อถูกจับกุมดำเนินคดีหมดแล้ว
เขาตั้งใจเรียนหนังสือ มุ่งหน้าตามฝันของตัวเอง และฝันของพ่อ กระทั่งสอบเข้ามาเป็นตำรวจ และเริ่มเข้ารับราชการตำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ตั้งใจปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาทั้งหมด
เข้ามาทำงานในส่วนของงานสืบสวนที่รับผิดชอบในติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้างเก่า โดยเฉพาะในรายที่ “ใกล้หมดอายุความ”
จังหวะเดียวกับคนละแวกบ้านมาบอกว่า คนร้ายที่ร่วมกันฆ่าพ่อย้อนกลับมาในถิ่นเก่า เขาถึงปัดฝุ่นแฟ้มคดีรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมประสานกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามร่วมกันแกะรอยติดตามจับกุมได้สำเร็จ
การติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และทำตามขั้นตอน
ไม่ได้ “สุมไฟแค้น” เพื่อรอเวลาสางบัญชี
มันเป็นหน้าที่ที่เขามีความภาคภูมิใจในอาชีพตำรวจ