ตามรอยอย่างเงียบ ๆ ก่อนพิชิตผลงานโบแดงที่เป็นคดีแสลงใจครอบครัวเหยื่อผู้บริสุทธิ์
ความเคียดแค้นระหว่างสถาบันแลกด้วยน้ำตาของ “เจ๊กิ่ง” นางเขมนิจ สุวรรณทัต แม่นายกมลวิช สุวรรณทัต อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปี 4 คณะโลจิสติกส์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
ลูกชายยอดกตัญญูที่ไปช่วยผู้เป็นแม่ขายราดหน้าบริเวณหน้าหมู่บ้านวังทองเฮาส์ ซอยนวมินทร์ 57 ถนนนวมินทร์ เเขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร กระทั่งถูกมือปืนยิงเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาตม 2561
เขาตายในอ้อมอกแม่บังเกิดเกล้า
ไม่ต่างเรื่องราวสะเทือนใจของครอบครัว นายธนิต หรือ เต้ ทัฬหสุนทร อีกเหยื่อก่อนหน้าที่สังเวยศึกความขัดแย้งของต่างสถาบัน ส่งผลทำให้ นายศุภชัย ทัฬหสุนทร ผู้เป็นพ่อต้องกระโดดชั้น 8 อาคารศาลอาญา ลงมาเสียชีวิต
หลังศาลชั้นต้น “พิพากษายกฟ้อง”จำเลยในคดีฆ่าลูกชาย
คดีที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาชั้นปี 4 คณะโลจิสติกส์ อุเทนถวาย ตำรวจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานนานเดือนเศษ ได้ทีมงาน พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล กับพวก ประสานข้อมูล พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 4 และฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว
ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คน เป็นนักศึกษาสถาบันคู่อริเก่า
กำหนดปฏิบัติการสังหารเป้าหมายกันชัดเจน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ยลต์พล ทำหน้าที่เป็นคนยิง นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล มือชี้เป้า นายกฤษฎา นราพงษ์ คนวางแผน นายจิรภัทร เพชรรักษ์ คนนำ คุ้มกัน และพาหนี นายสหรัฐ ดงพระจันทร์ ขี่จักรยานยนต์พามือสังหารซ้อนท้ายไปก่อเหตุ
ต่อมาตำรวจสืบสวนนครบาลตามรวบได้ 3 คน มี นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล นายกฤษฎา นราพงษ์ ผู้ และนายสหรัฐ ดงพระจันทร์ ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
ทั้งหมดยังภาคเสธ
แต่ตามแนวทางการสืบสวนแน่ชัดว่า ชนวนเลือดเกิดจาก นายอนุสรณ์ สนธิ อายุ 25 ปี เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ถูกมือปืนกระหน่ำยิงอย่างโหดเหี้ยม ระหว่างไปช่วยยายขายโจ๊กและต้มเลือดหมูในซอยวัดมะขาม หมู่ 2 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี
ฆ่าต่อหน้าน้าสาวที่ยกมือไหว้อ้อนวอนปกป้องหลานทว่าไม่เป็นผล
ประวัติของเด็กหนุ่มเคยศึกษาอยู่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ไม่เคยเกเรไปยกพวกอาละวาดตีรันฟันแทงกับใคร
ถึงกระนั้นได้สร้างความเจ็บแค้นเป็นรากลึกเสมือน “ฟันเฟือง” สัญลักษณ์ของสถาบันที่ลุกโชนให้กลุ่มผู้ต้องหาวางแผนสางบัญชีสถาบันคู่อริ ก่อนลงมือคืนกับครอบครัว “สุวรรณทัต”
ที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องชิงชังบาดหมางกันมาเลย
เป็น “ซุ้มนักฆ่า” นอกกฎหมายภายใต้สังกัด “สถาบันช่างกลและช่างก่อสร้าง” เก่าแก่ของเมืองไทยที่ฝังแค้นกันมายาวนาน มีรุ่นพี่และศิษย์เก่า “ปั่นหัว” ถ่ายทอดค่านิยมรักสถาบันแบบผิด ๆ จนเกิด “แนวคิดอำมหิต” ตระเวนออกล่าไล่ฆ่ากันเป็นใบไม่ร่วงนับสิบศพตลอดหลายปีที่ผ่านมา
น่าสะเทือนใจที่เหยื่อจำนวนไม่น้อยเป็นนักศึกษาผู้บริสุทธิ์เข้าไปเพื่อเรียนวิชาออกมาเลี้ยงชีพดูแลครอบครัว
น่ากลัวตรงตำรวจทำหน้าที่ได้แค่ตามล้าง-ตามจับ
ไม่อาจดับไฟแค้นศึก 2 อาชีวะชื่อดังแห่งตำนาน