นิตยสาร COP’S ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2562
สัมผัสชีวิต พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน เมื่อคืนถิ่นงานปราบยานรก ลูกหม้อของหน่วยเลือกที่จะมานั่งคุมทัพ “กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด” เพื่อสานภารกิจคั่งค้างตามที่ตัวเองเคยวาดหวังไว้สมัยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาลงสนามภาคปฏิบัติ ปกติเป็นคนพูดน้อย ไม่ชอบออกสื่อตามสไตล์ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจำเป็นต้องทำงานลับและเสี่ยงภัย
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์นิตยสาร COP’S ถึงนโยบายการทำงานตามเป้าหมาย “มุ่งมั่นพิทักษ์ไทยให้ปลอดภัยยาเสพติด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเบื้องพระยุคลบาท”ประกาศวิสัยทัศน์เป็นหน่วยนำในเชิงยุทธศาสตร์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเป็นฝ่ายอำนวยการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการวางแผน ควบคุม บูรณาการและสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชุมชนและสังคมปลอดภัยจากยาเสพติด
หลังเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ต่อจาก พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่เกษียณอายุราชการ “ในการแก้ปัญหา ผมมองว่า ทุกวันนี้ฝ่ายตำรวจทุ่มเทสรรพกำลังลงไปค่อนข้างจะเยอะและมากพอสมควร เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า เป็นนโยบายของรัฐบาล ยิ่งช่วงนี้ยาเสพติดมีการนำเข้ามากขึ้น นโยบายรัฐบาลเห็นความสำคัญเรื่องยาเสพติด เป็นห่วงอนาคตของคนในชาติ ยอมรับว่า การป้องกัน ตำรวจทำฝ่ายเดียวไม่พอ ต้องแสวงหาหน่วยงานอื่น หรือภาคเอกชนด้วย ที่สำคัญในเรื่องของชุมชน ด้านครอบครัว อันนี้ ผมว่าเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องยาเสพติด ถ้าครอบครัว หรือชุมชนมีส่วนร่วมช่วยกันจะทำให้เราได้มากกว่านี้อีกเยอะ” เป็นสิ่งที่ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติดคนปัจจุบันคาดหวังไว้
ย้อนตำรวจอธิบดีกรมตำรวจตงฉิน พล.ต.อ.เภา สารสิน ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 ของประเทศอีกทั้งยังเป็นบิดาของ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน พลิกชีวิตจากหนุ่มนักเรียนนอกตามคำแนะนำของ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ก้าวเข้ามารับราชการตำรวจ ไต่เต้าขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และวางรากฐานหน่วยตำรวจปราบปรามยาเสพติดก่อนเป็นรูปเป็นร่างกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจนถึงทุกวันนี้
ปีแรกที่นั่งเก้าอี้อธิบดีกรมตำรวจ เจ้าตัวได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันตำรวจ 13 ตุลาคม ประกาศจะให้กรมตำรวจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพราะการป้องกันและการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมนั้นจำเป็นต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยจึงจะบังเกิดผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ขอให้ตำรวจทุกคนจงเข้มแข็ง อดทน และสำนึกในหน่วยที่ด้วยความรับผิดชอบในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุขภาพอ่อนน้อม ดั่งคำขวัญที่ว่า ซื่อสัตย์สุจริตเป็นมิตรประชาชน อ่อนน้อมถ่อมตน อดทนรอบคอบและรับผิดชอบผลงาน
เขายังทิ้งคำสอนจากพ่อสู่รุ่นลูกและหลานว่า “คุณพ่อบอกผมว่า พ่อมีน้ำสะอาดไว้ให้ลูกอยู่เต็มถังให้ใช้ดื่มกินไปตลอดชีวิต อย่าได้ยอมให้น้ำสกปรกแม้แต่เพียงหยดเล็ก ๆ หยดเดียวมาทำให้น้ำในถังนั้นสกปรก เพราะเพียงแค่น้ำสกปรกเข้ามาปนกับน้ำสะอาดที่พ่อมีให้ไว้แม้เพียงน้อยนิด ลูกจะดื่มกินน้ำในถังอย่างไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต แล้วมันจะทำให้ชีวิตของลูกเศร้าหมอง ผมจดจำคำพูดของคุณพ่อที่สอนไว้มาจนบัดนี้” บ่งบอกถึงความซื่อตรงในการทำงานตลอดชีวิตราชการของเขา
กระทบไหล่ ผู้กำกับตุ้ย-พ.ต.อ.หญิง แจ่มศรี สุรัสสนันท์ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 สาวสวยชาวจังหวัดลำปาง ดีกรีเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าบรรจุเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรี งานพยาธิวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สวมเสื้อกาวน์นาน 5 ปี ขยับออกมาเป็นรองสารวัตรงาน 3 ฝ่าย 3 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สนามบินดอนเมือง เคยเป็นสารวัตรงาน 3 ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ทำให้รู้ตัวตนว่า ถนัดงานด้านไหน เมื่อมีโอกาสถึงขอกลับมาคุมงานตามที่ตัวเองฝัน อีกทั้งยังรับหน้าที่ผู้ช่วยโฆษกประจำกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย
TOP COP’S – พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตม์ รองผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจหนุ่มอนาคตไกลฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา จบนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 58 มีผลงานจับกุมคดีสำคัญให้หน่วยมากมาย เคยรับรางวัล COP’S Award ประจำปี 2559 ของนิตยสาร COP’S รางวัลจากสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย สาขาปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษกิจ รางวัลมูลนิธิบุณยะจินดา สาขาป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น และรางวัลป้องกันปราบปรามยาเสพติดดีเด่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทำความรู้จัก “ปุ๊” ปรางค์ทิพย์ ดาวเรือง สื่อมวลชนและนักวิจัยอิสระมากประสบการณ์ และยังเป็นนักข่าวไทยเพียงคนเดียวที่ทำงานร่วมกับสหพันธ์นักข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย อยู่ในทีมเจาะข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนดังระดับโลก คือ ปานามา เปเปอร์ส Panama Papers เอกสารจำนวนมากถึง 2 TB (จำนวน 11.5 ล้านชิ้น) ถือเป็น Big Data ที่หลุดจากมอสแซค ฟอนเซก้า ที่รับจ้างจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตทั่วโลก เพราะบางที่จะมีกฎหมายพิเศษอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่จดทะเบียนบริษัทสามารถปกปิดรายละเอียดการทำธุรกรรม กลายเป็นช่องให้ใช้ฟอกเงิน
“ความฝันของนักข่าวทุกคนหากมีงานชิ้นโบว์แดงมาอยู่ตรงหน้า ก็คงไม่มีใครที่อยากจะคิดปฏิเสธ เพราะถือเป็นโอกาส และการที่จะได้ทำข่าวร่วมกันข้ามพรมแดน แบบนี้อาจจะไม่มีอีกแล้ว ปุ๊จึงตัดสินใจโดยไม่ต้องลังเลเลย ในการทำงานจะต้องมีความร่วมมือกันกับนักข่าวที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พูดคนละภาษากับเรา อยู่ในประเทศต่างๆ มีเบื้องหลังฉากต่างกันเกือบ 400 คน และที่สำคัญคือ ทุกคนจะต้องเซ็นเอกสารว่าจะรักษาความลับหนึ่งปี บอกใครไม่ได้ แม้กระทั่งในกอง บก.เดียวกันจนกว่าจะถึงวันที่นัดรายงานข่าวออกไปพร้อมกัน คือวันที่ 3 เมษายน 2559” เป็นประสบการณ์ความภาคภูมิใจของนักข่าวสาวชาวไทยคนเดียวอย่างเธอ
พิราบหลากสี พาไปพบ “ปอเปี๊ยะ” กาลเวลา เสาเรือน สาวสวยแห่งเมืองล้านนา ผู้สื่อข่าว/ผู้ประกาศข่าวภาคสนาม สถานีโทรทัศน์ช่อง “เวิร์คพอยท์” เจ้าของรางวัลสตรีดีเด่นประจำปี 2561 ด้านการปกป้องสิทธิของตนเองจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โตมากับข่าวสารแบบไม่รู้ตัวและเป็นการซึมซับอัตโนมัติ กลายเป็นความฝันตั้งแต่ชั้นประถม ท่ามกลางอุปสรรคที่เข้ามาสะดุดชีวิตตอนพ่อและพี่ชายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะกระโดดผ่านพงหนามกลับมายืนด้วยขาตัวเองกระทั่งประสบความสำเร็จในเส้นทางที่วาดหวังไว้ “การทำงานผ่านหน้าจอเปรียบเสมือนให้คุณพ่อคุณแม่ที่จะได้เห็นลูกสาวผ่านจอโทรทัศน์และทางโซเชียล” คนข่าวสังกัดช่องเวิร์คพอยท์ว่า
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาคุณภาพคับเล่มเช่นเคย
