ไทม์ไลน์ชีวิตตำรวจของข้าพเจ้า

วิกฤติพนักงานสอบสวนเห็นทีต้องทบทวนแนวคิดการแก้ปัญหา

ไม่ใช่สุกเอาเผากิน

เหวี่ยงแห “จับยัด” เหมือนเกิดขึ้นกับ “สารวัตรป้ายแดง”ที่ส่วนใหญ่จบจาก นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 65

สุดท้ายทำท่าจะล้มเหลวรวนปั่นป่วนกันทั้งระบบ

กระทบกระเทือนไปถึงระดับรองสารวัตรเมื่อปรับเกลี่ยสายอื่นไปลงเป็นพนักงานสอบสวนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนตามโรงพัก

แต่แล้วก็เพิ่มปัญหาขึ้นมาให้ปวดเศียรเวียนหัว

หลายคนเอาตัวรอดวิ่งหนีงานโดยใช้คำสั่ง “ผู้กำกับโรงพัก” ให้ไปปฏิบัติหน้าที่งานเก่า ไม่เลือกเอาต้นธารของกระบวนการยุติธรรม มานั่งจับเจ่าปั่นสำนวนทำหน้าที่รับใช้ประชาชน

ทั้งที่เป็นหัวใจหลักของงานโรงพัก

คงต้องไปอ่าน ไทม์ไลน์ชีวิตตำรวจของข้าพเจ้า

พ.ต.ท.สุริยา แป้นเกิด สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรยะหา จังหวัดยะลา นายตำรวจหนุ่มนักเขียนเรื่องราวที่โพสต์ไว้ในเพจเฟซบุ๊ก Suriya Pankerd

ขออนุญาตสรุปให้เห็น

ยุคทักษิณ ชินวัตร  …

เป็นชั้นประทวน ได้ปรับเงินประจำตำแหน่งจาก 1,200 เป็น 3,000 ปรับระบบขั้นข้าราชการ จากระบบมี 2 ขั้น กับ 1 ขั้น เปลี่ยนเป็นระบบ มี 1.5 ขั้นด้วย ลดความเหลื่อมล้ำ

มีเงินปราบหวย มีเงินโบนัส

ยุคมาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ได้ปรับเงินตำแหน่ง พงส. จาก 3,500 เป็น 12,000 บาท

มีระบบแท่ง พงส. มีเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท

ยุคปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ได้ปรับขั้นพิเศษ 3 ขั้น เป็น เงินเยียวยาจาก นโยบาย ปริญญาตรี เงินเดือน 15,000

ส่วน ยุค ลุง….

โดนยุบแท่ง พงส.

ยกเลิกระบบ ยื่นสำนวนคดีประเมิน ยกเลิกระบบสอบเลื่อนตำแหน่ง แถมให้ครองตำแหน่งช้ากว่าเดิมอีก 1 ปี ถึงจะมีสิทธิเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

ยุบอำนาจแต่งตั้ง ของ ผบช.ภาค เป็น ใช้อำนาจแต่งตั้ง เพียงผู้เดียวของส่วนกลาง

แต่ก็ได้เพื่อนร่วมรุ่นที่ออกจากงานสอบสวน ไปเป็น สารวัตรสืบสวน สารวัตรป้องกันปราบปราม กลับมาเป็น สารวัตรสอบสวน

พร้อมด้วยคราบน้ำตา….

เป็นไทม์ไลน์ชีวิตตำรวจของเขา

ทว่าอาจเข้ากับตำรวจอีกหลายคนในยุคปัจจุบัน

RELATED ARTICLES