บั้นปลายชีวิตราชการก่อนเกษียณอายุ
นายตำรวจคนหนึ่งวาดหวังทำงานอุทิศตนเพื่อประเทศชาติเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล ด้วยการสมัครใจอาสาลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน สมรภูมิด้ามขวาน เมื่อหลายปีก่อน
เขาอยากได้ “สหายร่วมรบ”
แต่กลับได้พบผู้เป็นนาย (บางคน) หิวกระหาย
“ผมรับไม่ได้” เจ้าตัวรำพัน “คิดแต่หวังผลประโยชน์จัดซื้อจัดจ้าง ของราคาเท่านี้ แต่ซื้อแพงกว่า 3 เท่า วัน ๆ คิดแต่เรื่องงบประมาณ”
มันไม่ใช่สิ่งที่นักรบชราวาดฝัน
“คนที่ตายกลายเป็นลูกน้องอยู่ในพื้นที่”
ทว่า ผู้เป็นนาย (บางคน) ยังไม่หยุดกระหาย “น้ำลายสอ” กอบโกยส่วนต่างของงบประมาณแผ่นดิน
“อีกกี่สิบปีก็แก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้” เขาว่า
เสี่ยงตายในสมรภูมิรบนอกระบบมาหลายปี สูญเสียลูกน้องจากการปะทะเดือดที่ร่วมอาสาลงมาทำหน้าที่รักษาความสงบให้แก่ชาวบ้านไป 2 นาย
สุดท้ายเขาตัดสินใจอำลา ก่อนจากยังไปกราบอนุสาวรีย์ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา วีรบุรุษแห่งบันนังสตา จังหวัดยะลา อดีตสหายร่วมรบที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
วาดฝันอีกครั้งว่า อยากดวงวิญญาณนักรบขาเหล็กให้ช่วยขจัด ผู้เป็นนาย (บางคน) ที่หิวกระหายทำลายขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาบนสมรภูมิไฟใต้
กระทั่ง ผู้เป็นนาย(บางคน)คนนั้นเกษียณอายุราชการไปท่ามกลางเสียง“สาปส่ง” จากบรรดานักรบในพื้นที่
สำหรับเขาทุกวันนี้ กลับมาทำหน้าที่ถ่ายทอดประสบการณ์ที่สะสมมาทั้งชีวิตเพื่อปลูกจิตสำนึก “นายตำรวจรุ่นใหม่” ให้มีจิตใจและวิญญาณความเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” มากกว่าโหยหาอำนาจที่ขาดความชอบธรรม เหมือนที่เขาได้สัมผัสจาก “ผู้เป็นนายรุ่นเก่า”
เอา “เนื้องาน” แลกตำแหน่งที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นนั่งเก้าอี้ด้วย “เนื้อเงิน”
ทั้งที่รู้เต็มอกว่า โลกองค์กรสีกากี อาชีพที่เขารักมีความเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม ทว่ายังเลือกเติมบรรดาใจให้เด็กรุ่นน้องเห็นพ้องในการทำหน้าที่ตามอุดมการณ์ของตำรวจ
แม้จะเจ็บปวดมาจากสนามรบ
ถวิลหา “สหายร่วมรบ” กลับมาพบ ผู้เป็นนาย (บางคน) หิวกระหายที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน