มหากาพย์ประติมากรรมกับวิบากกรรมของใครบางคน

ผลพิษจากอำนาจหน้าที่กำลังส่งผลถึงการกระทำผิด ติดรอยมลทิน หม่นหมองแก่ข้าราชการประจำ แม้จะรู้ หรือไม่รู้เห็นเป็นใจก็ตาม

ถือเป็นอีกบทเรียนสำคัญ หลังจาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ใช้เวลาไต่สวนตรวจ โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง งบประมาณ 5,800 ล้านบาท

ป็นเรื่องราวเหม็นฉาวโฉ่มายาวนานกลายเป็น ประติมากรรมโรงพักร้าง เหลือแค่ท่อนปูนคอนกรีตไว้ตอกย้ำเป็นอนุสรณ์ความผิดพลาดจากการบริหารงานของผู้เกี่ยวข้อง

ในที่สุด องค์ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิด  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้อนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 วงเงิน 5,800 ล้านบาท

เมื่อพบหลักฐาน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น มีคำสั่งให้เปลี่ยนวิธีการประมูลการจัดสร้างโรงพักทดแทน จากเดิมที่ใช้วิธีแยกประมูลสัญญาเป็นรายภาค

มาเป็นรวมศูนย์การประมูลเป็นแห่งเดียว

ทั้งที่คณะรัฐมนตรีทักท้วงไปแล้ว และให้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณก่อน

ทว่านักการเมืองคนดังผู้ถืออำนาจเวลานั้นไม่ดำเนินการ ยืนยันจะใช้วิธีการประมูลแบบรวมศูนย์ อ้างมีระเบียบของกรมบัญชีกลางอนุญาตให้ทำได้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยังมีมติชี้มูลความผิดการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เสนอขึ้นมาพร้อมกับคดีโรงพักทดแทนใน “ลักษณะแพ็กคู่”

โครงการแฟลตที่พักตำรวจนอกจาก นายสุเทพ เทือกสุวรรณ จะโดนชี้มูลความผิดอีกเรื่อง ยังลากเอา พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง  “ติดร่างแห” เอี่ยวความผิดไปด้วย

เป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับคดีโรงพักทดแทน คือ มีการเปลี่ยนวิธีการดำเนินการประมูลก่อสร้างจากแยกเป็นรายภาคมาเป็นวิธีการรวมศูนย์แห่งเดียวจนกลายเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก

โครงการก่อสร้างไม่เดินหน้า ส่งผลให้เกิดภาพของโรงพักและแฟลตหลายแห่งถูกทิ้งร้างเกลื่อนทั่วประเทศ

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีความเห็นว่า พฤติการณ์นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกเข้าข่ายการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่  

ปิดฉากมหากาพย์คดีทุจริตฉาวโฉ่ละลายเงินงบประมาณสร้างโรงพักมหาศาล

ปิดตำนาน “น้ำลดตอผุด” ฉุดให้ข้าราชการประจำหลายคนต้องเก็บเอาไปเป็นกรณีศึกษา เพราะว่า มีอีกหลายโครงการจ่อเข้าข่ายไม่ต่างเรื่องราวของ “โรงพักร้าง” ด้วยเช่นกัน

RELATED ARTICLES