ใครอุ้มฆ่า-เผาบิลลี่

อีกบทพิสูจน์การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีมนต์ขลังน่าเชื่อถือแค่ไหน

การหายตัวไปของ “บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ” แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย  เขตอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกระจาน อำเภอแก่นกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 หลังถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบปากคำ

เป็นเวลา 5 ปีที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยแต่ไร้พยานหลักฐานเอาผิดกล่าวโทษใคร

การล่องหนของ “บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ” กลายเป็นปริศนา

เขาเป็นคู่ขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานบางคน  เป็นพยานปากสำคัญคดีที่ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ฟ้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 เพื่อเรียกค่าเสียหายจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรณีไล่รื้อและทำลายทรัพย์สินชาวบ้านปี 2554 และขอสิทธิอาศัยในพื้นที่เดิมที่ตั้งรกรากมากว่า 100 ปี

มีนัดไปให้ปากคำกับศาลปกครองในวันที่ 18 พฤษภาคม 2557

หลังจากเขาหายตัวไปญาติได้เข้าร้องเรียนหลายหน่วยงาน กระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ

ผ่านนานหลายปี คดีดูเหมือนเงียบหายไปกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.ท.เสฏฐ์สถิตย์ สุวรรณกูด รองผู้อำนวยกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายวรวีย์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายสว่างทิตย์ ศรีกิจสุวรรณ หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  พ.ต.ต.นิรุท อินธิศร ผู้บังคับกองร้อย กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกันแถลงความคืบหน้าของคดี

พวกเขาใช้เวลานาน 1 เดือนระหว่างวันที่ 26 เมษายน-24 พฤษภาคม 2562 ใช้ยานยนต์สำรวจใต้น้ำจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  และนักประดาน้ำของกองกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจหาพยานหลักฐานพื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน

พบชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ถังน้ำมัน 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้นและเศษฝาถังน้ำมัน

ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์จนพบยืนยันเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ มีรอยไหม้สีน้ำตาล ร่วมกับรอยแตกร้าวและการหดตัวของกระดูกจากการถูกความร้อนที่อุณหภูมิ 200-300 องศาเซลเซียส

เมื่อเปรียบเทียบสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ตรงกับ นางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของ “บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ”

ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2562 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ย้อนกลับไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณจุดเดิมพบชิ้นส่วนกระดูกอีก 20 ชิ้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดครั้งนี้เข้าข่ายฆาตกรรมโดยทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ

อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด

เปิดเกมลุยหา ทีมฆาตกรอำมหิต ที่เคยใช้ชีวิตเป็น ผู้อิทธิพล อยู่ในอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกระจาน

ชอบเล่นบท “ฮีโร่รักษาป่า” แต่เจตนาอุ้มฆ่าเหยื่อชาวกะเหรี่ยงอย่างโหดเหี้ยม

บางทีปริศนาฆาตกรรมอำพราง “บิลลี่” อาจต้องพึ่ง “บิลลี่” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทายาท พล.ต.ท.วรรณรัตน์  คชรักษ์ อดีตตำนานนักสืบที่มีลูกศิษย์คร่ำหวอดในวงการ “สืบสวนนอกตำรา” มี นายวรวีย์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม น้องชาย พ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ อดีตรองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ผู้ล่วงลับ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 43 เพื่อนรัก  “ผอ.บิลลี่” ด้วยอีกคน

รอยลกันต่อไปว่ากระบวนการยุติธรรมคดีนี้จะสิ้นสุดตรงไหน

 

 

 

RELATED ARTICLES