ควันหลงจากการตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2562 ของสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย
ฮือฮามากที่สุดน่าจะเป็น พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
นายพลหนุ่มที่ค่อนข้าง “เป็นกันเอง” กับบรรดานักข่าวมานานตั้งแต่สมัยยังเป็น “รองผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม” แถมพัฒนาหน่วยอยู่เสมอไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ใด
เที่ยวนี้กลับโดน “สื่อสายตำรวจ” จัดหนัก
ให้ฉายา “อู๊ดข่าวดอง”
อ้างเหตุผลว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญ ถือว่าเป็นแนวหน้าในการรักษาความมั่นคงของประเทศ ทั้งงานการให้บริการในการเดินทางข้ามแดนและการรักษาความมั่นคงของชาติ การสกัดกั้นบุคคลต้องห้ามที่ไม่พึงประสงค์ มิให้เดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรได้ รวมทั้งป้องกันภัยคุกคามต่อความมั่นคงในรูปแบบต่าง ๆ
“ขณะเดียวกัน การให้ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้สังคมได้รับทราบ โดยกำหนดแถลงข่าวทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เมื่อจับกุมคดีต่าง ๆจะเก็บไว้หรือเรียกว่า “ดอง” แล้วนำมาแถลงรวมกันทีเดียว ผิดหลักการทำงานของฝ่ายสืบสวน” นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมเอ่ยปากแถลงความรับผิดชอบเอง
กลายเป็นที่มาของฉายาว่า “อู๊ดข่าวดอง”
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่ถึงกับอารมณ์เสียหงุดหงิดกับฉายาที่ได้รับ และแอ่นออกยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกระดานคนข่าวสายตำรวจ
“ขอขอบคุณที่พี่น้องสื่อมวลชน ยังให้ความสนใจและไม่ลืมกัน ทุกเสียงของพวกท่านที่ลงคะแนนมา ถือเป็นกระจกสะท้อนในการปฏิบัติงานของผมในปีนี้ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง ให้เกิดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดียิ่งขึ้นไป” พล.ต.ท.สมพงษ์ระบายความรู้สึก
พร้อมอธิบายว่า นอกจากงานบริการที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับผิดชอบ ยังมีงานด้านความมั่นคง เป็นงานเชิงรุก มุ่งปราบปรามคนต่างชาติที่กระทำผิดในประเทศไทย รวมถึงคนต่างชาติที่กระทำผิดจากที่อื่นและใช้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อนตัว
เพื่อไม่ให้เมืองไทยเป็นสวรรค์ของอาชญากร
“การปฏิบัติงานของเรานั้น ส่วนมากจะเป็นการขยายผลการจับกุม ไม่สามารถแถลงผลงานได้ทันทีทันใดเหมือนหน่วยอื่น ๆ เช่น การจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ต้องใช้เวลาในการขยายผลเพื่อจะจับกุมกวาดล้างให้หมดทั้งเครือข่าย”
นั่นเป็นสาเหตุที่อาจจะใช้เวลาในการสาวไปถึงต้นตอของหัวหน้าขบวนการ
เจ้าตัวยังระบุว่า ย้ำให้ทุกหน่วยงาน ออกปฏิบัติงานเชิงรุก ออกตรวจพื้นที่ จับกุมกวาดล้างทุกอาทิตย์ เน้นการเผยแพร่ผลงานของกองบังคับการทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้เกียรติทุกหน่วยงานที่ได้เข้ามาให้ความร่วมมือในการขยายผลจนนำไปสู่การจับกุม
“เพราะตำรวจทั่วประเทศมีเครือข่ายเดียวกัน ทุกคนขึ้นตรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นข้าราชการของแผ่นดิน ทำงานเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินเหมือนกัน” พล.ต.ท.สมพงษ์ร่ายยาว
ในการแถลงผลการจับกุมทุกสัปดาห์ เขาถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ปฏิบัติงาน เมื่อมีขวัญกำลังใจมากขึ้น ผลงานก็จะออกมาดี ประโยชน์ก็ตกอยู่กับประชาชน
“ผมมีเจตนาดีที่อยากให้ผู้ปฏิบัติงานจริงได้มีส่วนร่วมในการแถลงข่าว การรายงานผลการจับกุมด้วยตัวเอง และให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนด้วยตัวเองอีกด้วย”
สุดท้ายผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติการเชิงรุก และพยายามปรับปรุงให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป
ส่วนจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังชักใยในขบวนการ “ดิสเครดิต” ผู้นำหน่วยคนนี้หรือไม่
ต้องไปหาคำตอบกันเอง