ฉากมือปืนสวมหมวกกันน็อกรัวกระสุนใส่รถเปล่าของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตนายพลคนดัง
กลายเป็นข่าวโด่งดังชั่วข้ามคืน
มือลั่นไกที่ “กล้ารับงาน” ถ้าไม่ “บ้า” ก็ต้องมี “คนคุ้มกะลาหัว” และไม่กลัวโดนฆ่าตัดตอนปิดปาก
เพราะเป้าหมายเป็นถึงข้าราชการพลเรือนระดับที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถมมีคนรู้จักแทบทั้งเมือง
ลงมือกลางกรุงที่เต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด
งานนี้เจ้าตัวฟันธงชนวนเหตุ ซัดมาจากการที่ไปโดดขวาง “โครงการไบโอแมทริกซ์” สมัยที่มีอำนาจคุมหน่วยประตูบานแรกของประเทศ ทำผู้ใหญ่บางกลุ่มเสียผลประโยชน์ ก่อนมีคำสั่งย้าย “มือไม้” ของผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองขณะนั้นออกนอกหน่วย
จะว่าไปแล้วผลงาน “ห่วยแตก” ของมือปืนที่มุ่งปองร้าย “นายพลตำรวจโท” เทียบเท่ากับคดีดังในอดีตบนหน้าบันทึกประวัติศาสตร์วงการสีกากีต่างกันลิบลับ
ย้อนวันวานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2519 เวลาประมาณ 18.00 น. พ.ต.อ.นรินทร์ วิทยาวุฑฒิกุล นายตำรวจประจำสำนักงาน พล.ต.ท.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น รองอธิบดีกรมตำรวจ ถูกคนร้ายยิงตายระหว่างขับรถไปตามถนนพหลโยธิน และเลี้ยวขวาเกาะกลางถนนจะกลับบ้านย่านบางเขน
เหตุเพราะอยู่ในทีมงานสอบสวนทุจริตคดีลักลอบขนสินค้าพีเอ็กซ์ของทหารอเมริกันหนีภาษีที่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลัง แล้วจ้าง “เสืออบ ขยันกิจ” เป็นหัวหน้าทีมสังหารตามสะกดรอยหวังจะเด็ดชีพ พล.ต.ท.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น หัวหน้าพนักงานสอบสวน รวมถึง พ.ต.ท.พิชัย ชำนาญไพร นายเวรด้วย
มันมาดูลาดเลาเฝ้าความเคลื่อนไหวของเป้าหมายถึงบริเวณหน้าห้องทำงานอาคาร 1 กรมตำรวจอยู่หลายรอบ
แต่หาจังหวะเหมาะไม่ได้
นายตำรวจหัวหน้าสำนักงานเลยกลายเป็นเหยื่ออำมหิตแทน
ทีมงานของรองอธิบดีกรมตำรวจมือปราบแกะรอยนานครึ่งเดือน จับตาย นายเหล็ก โชติช่วง มือปืนที่บ้านอำเภอพนมสารคาม ส่วน นายหวาน หอมสมบัติ ดวลเดือดบาดเจ็บตับแตก ขณะที่ นายเพชร โชติช่วง และ นายใช้คง แสงไชย เพื่อนร่วมทีมจนมุม
มีเพียง “เสืออบ ขยันกิจ” ไหวตัวหลบหนีได้
สอบสวนขยายผลทราบว่า นักฆ่าตัวร้ายจากจังหวัดปราจีนบุรียังไม่ลดราวาศอก เพราะมีแผนตามเก็บงานเพื่อ ปิดฉากนายพลมือปราบ ให้หมด “เสี้ยนหนาม” ไปจากอกของผู้บงการเลือดสีเดียวกัน
ปรากฏว่า หลังจาก “มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น” ขึ้นนั่งอธิบดีกรมตำรวจ ได้มอบหมายให้ “ธนู หอมหวล” เป็นหัวหน้าชุดติดตามวางแผนส่ง ร.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ กับ ร.ต.ต.ทรงพล สารพานิช คู่นักสืบหนุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 ของ “สืบสวนใต้” ปลอมตัวไปกินนอนอยู่กับ “เสืออบ” ถึงแหล่งกบดานในไร่อ้อยเขตอำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ก่อนตามลบบัญชี “เสืออบ ขยันกิจ” ได้ในที่สุด
เป็นการทำงานสืบสวนแบบเดินดินอาศัยพยานแวดล้อมและเบาะแสจากสายลับ ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือเทคโนโลยีทางอากาศ
วิสัยมือปืนอาชีพอย่าง “เสืออบ” พิสูจน์ให้เห็นวิญญาณนักฆ่ารับจ้าง
แตกต่างจากภารกิจถล่มรถเก๋ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ตำนานนักสืบรุ่นเก่ามองตรงกันว่า เป็น “งานโคตรหยาบ”
แต่เสมือนคมดาบ “บาดหัวใจ” แม่ทัพสีกากีไม่น้อย
