ยังคงเก็บตัวไม่เผชิญหน้ากับบรรดากระจอกข่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลือกเก็บร่างก้มหน้าก้มตาเป็นหัวหอกคอยไล่บี้สางคดีคนร้ายใจอำมหิตบุกชิงร้านทองออโรร่า ห้างโรบินสัน กลางเมืองลพบุรี ยอมหนีคำถามจากสื่อมวลชนถึงประเด็น อาหารเช้าชามร้อน โยงไปถึงคลิปเสียงสนทนากระฉ่อนว่อนโลกโซเชียล
ชั่วโมงนี้เจ้าตัวน่าจะขยาดกับการคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ
คนที่ไว้ใจที่สุด อาจเป็นคนที่อันตรายที่สุด
ถึงปล่อยให้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ กระบอกเสียงส่วนตัวคอยออกมาระบายความเห็นแทนเป็นฉาก ๆ แต่อยากจะตอบแทนได้ทั้งหมด
แค่คาดเดาแบบแก้ผ้าเอาหน้าระคนเอาตัวรอด
เกิดอะไรขึ้นกับ “พิทักษ์ 1 กึ่งทศวรรษ” ในบั้นปลายชีวิตราชการ เมื่อคนรอบข้างพร้อมใจประเดประดังกัน “เปิดหน้า” ทำท่าหมายจะเป็นศัตรูมากกว่า “คนรักและเคารพกัน”
ในวันที่กระสุนปืนรัวลั่นใส่รถเก๋งของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “น้องโจ๊ก” ของ “พี่แป๊ะ” แม้เป้าหมายไม่ถูกใครบาดเจ็บล้มตาย แต่กลับกลายเสมือน “ฟางเส้นสุดท้าย” ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องนักเรียนนายร้อยตำรวจ
ไม่รู้ว่า “น้องโจ๊ก” ได้ “ของดี” มากจากไหน ถึงมั่นใจศึกใหญ่ปะทะ “พี่แป๊ะ” ครั้งนี้จะได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด
ขนาด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ยังเงียบ ส่วน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่คุมทัพสีกากียังส่ายหน้าปฏิเสธ
บอก “เป็นปัญหาที่เขาจัดการกันเองได้”
หาก “น้องโจ๊ก” ได้มีโอกาสกลับมาสวมเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อีกครั้ง ท้องฟ้าเหนือ “ทุ่งปทุมวัน” น่าจะกระเทือนเลื่อนลั่นเปรี้ยงปร้างสะท้านไปทั่ว “ยุทธจักรโล่เงิน” พลิกผันเส้นทางเดินของชีวิต “ขุนพลต่างขั้ว-มือไม้ต่างค่าย” ที่มีหวังโยกย้ายแตกกระจายกันอีกระลอก
เหมือนเจ้าตัวไม่มีอะไรจะเสีย ถึงแม้จะ “ตีรถเปล่า” ก็ยังมีเวลากรำศึกนานกว่า 11 ปี ผิดกับคู่กรณีที่นับเวลาถอยหลัง รอวันปล่อยมือ “ถอดหัวโขน”
ศึกของ “น้องโจ๊ก” กำลังร้อนระอุ ดันมี “ไส้ศึก” บุกประชิดข้างตัว แม้ “หดหัว” ไม่กล้าแสดงตัว เพราะกลัว “พลังดรีมทีม” แต่ก็ไม่ต่าง “สนิมเนื้อใน” เกาะกินอยู่กลางใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอเวลาผุกร่อน ร่อนตะแกรงแฝงด้วยใบมีด “เลื่อยขาเก้าอี้”
บทสนทนาข้ามประเทศเป็นเรื่องเป็นราวระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา น่าจะเป็นคำตอบได้ดีว่า เหตุใดมีมือมืด “อัดเทป” ไปปล่อยคลิปป้อนสื่อ
ใครถือ วิสาสะโชว์เจตนาแทงข้างหลัง มีหรือที่ “พี่แป๊ะ” จะไม่รู้สันดานกลุ่มขบวนการใส่ “กระโปรงบาน” ในร่างสุภาพบุรุษชุดเครื่องแบบสีกากี
ล่าสุด พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางไปศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หอบหลักฐานยื่นฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
อ้างเหตุถูก โยกย้ายไม่เป็นธรรม พ้นจากตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ลงไปอยู่สายอำนวยการพื้นที่ภูธรภาค 9
ร่วมมะรุมมะตุ้มตะลุมบอน “ผู้นำ” ของหน่วย
ทำให้หลายคนกำลังรอแทงหวยว่า ใครจะเป็น “ฝ่ายกำชัย”
มีเก้าอี้ “แม่ทัพสีกากี” เป็นเดิมพัน !!!
