ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับการแต่งตั้งโยกย้าย
ส่วนใหญ่มีปัจจัยมาจาก “เส้นสาย” และ “ผู้เป็นนาย” กำหนดว่าจะเลือก “แหกกฎ” เพื่อกำหนด คนของตัวเอง หรือจะบรรเลงทุกขั้นตอนไปทำตามหลักเกณฑ์ด้วยความเป็นธรรม
เป็นขวัญกำลังใจคนทำงาน
การประชุมแต่งตั้งโยกย้าย นายพลสีกากี 183 ตำแหน่ง ที่ผ่านการตีตราเคาะจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
ได้เวลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องเดินทางเข้าไปนั่งเป็นประธานในห้องประชุมอีกครั้ง เมื่อกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560
ยุบศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถอยหลังกลับไปรวมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ตามเดิม พร้อมกับ การกำเนิดใหม่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการออกคำสั่งให้ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ อดีตแม่ทัพนักรบชายแดนด้ามขวานไปนั่งรักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และเกลี่ยขุนศึกระดับรองแม่ทัพไปรักษาราชการแทนบางส่วน
พอถึงเวลาแต่งตั้งจริงก็เหมือนเกม “ลิงวิ่งชิงหลัก”
ปักหมุด “เก้าอี้ทอง” กองบัญชาการแห่งใหม่
ไฟเขียว “พลิกโผ” ให้ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ข้ามไปนั่งคุมผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวคนแรก โยนเก้าอี้พื้นที่ใต้สุดของประเทศกลับไปให้ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนจังหวัดภาคใต้คนสุดท้าย คุมบังเหียนดับไฟสมรภูมิด้ามขวานต่อ
ที่น่าสนใจ คือ ถือโอกาส “รื้อบัญชีเก่า” ที่เพิ่งผ่านการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจสัปดาห์เดียว ถอด พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษที่เดิมจะขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ถวายพานให้ไปนั่งรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
เตรียมวาดเส้น ปูทางเป็นผู้บัญชาการบนบัลลังก์ “เค้กก้อนโต”คนต่อไป
อานิสงส์ของการ “สลับโผนายพลใหม่” ระลอกนี้แม้จะมีแค่ 18 ตำแหน่ง ยังส่งให้ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ ไปนั่งรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ขยับปรับลดพื้นที่รับผิดชอบเป็นผู้บังคับการตำวจท่องเที่ยว 1 พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี เป็น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการสารนิเทศ เป็น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 และพล.ต.ต.หญิง ขวัญตา เจษฎานนท์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 เป็น ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจท่องเที่ยว
ส่วนเก้าอี้ติดพันคนอื่น มี พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.พัฒนะวุธ อังคะนาวิน รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ศุภธัช คำดี รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผู้บังคับการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์ ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ขยับนั่งผู้บังคับการกองคดีอาญา พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลป์ชัย ผู้บังคับการกองคดีอาญา เป็น ผู้บังคับการกองสารนิเทศ พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็น ผู้บังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็น ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอำนาจ วาสนาและห้วงจังหวะเวลา
เขาว่าต้องดูกันยาว !!!
