เบี้ยเลี้ยงที่หายไป

ปมร้อนเรื่อง “นายอมเบี้ยเลี้ยง” ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก

เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนที่ตำรวจชั้นผู้น้อยต้องกล้ำกลืนฝืนทนน้ำท่วมปากไม่อาจระบายกับใครได้ในยุคสมัยก่อน

ทำงานแทบตาย สุดท้าย ผู้เป็นนาย (บางคน) เอาเบี้ยเลี้ยงไปหมด

กระทั่งเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงของสังคม หลายคนเลือกจะ “ไม่อดทน” ขอเปิดศึกทวงสิทธิที่ตัวเองควรได้รับผ่านโลกโซเชียล

อีกส่วนฝากผู้เขียนช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย

ว่าด้วยเรื่องเงินงบประมาณในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดมรณะอุบัติใหม่ “โควิด-19” ตลอดหลายเดือนที่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดสรรเงินเบี้ยเลี้ยงในการตั้งด่านตรวจสกัดโรคร้ายที่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก

ทุกคนทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งในการ “ตั้งด่านตรวจเข้ม” ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงด้วยอุดมการณ์ความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเสร็จภารกิจถูก ผู้เป็นนาย (บางคน)ให้เซ็นรับเงินเบี้ยเลี้ยงเต็มอัตรา

ปรากฏว่า บางหน่วยถูกหักหัวคิวไป 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

เจ้าหน้าที่ธุรกิจอ้างว่า “ต้องคืนให้นาย”

ชั้นผู้น้อยหลายคนเห็นว่า ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เพราะเป็นเบี้ยเลี้ยงที่พวกเขาทำงานจริง ๆ ตามสิทธิที่ควรได้รับ

พฤติกรรมฉาวดังกล่าวลุกลามไปหลายจังหวัด

ผู้บังคับบัญชาท่านหนึ่งพูดไว้ได้น่าคิด ตำรวจรุ่นใหม่ ๆ คือ คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิดกล้าทำ เกิดยุค Generation Alpha

คนละยุคกับนายตำรวจรุ่นก่อนๆ ที่ใกล้เกษียณอายุและยังอยู่ในยุค Generation   Baby Boomer หรือ Generation X ที่ยังล้าหลัง

ยึดติดอยู่กับระบบอุปถัมภ์ที่ต้องดูแลนาย

ต้องรับใช้นาย

แม้กระทั่งต้องทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง 

แต่ Generation ยุค Alpha กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงความเห็นต่าง ไม่ยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเห็นว่าไม่เหมาะสม

โดนเอารัดเอาเปรียบ

เช่นตัวอย่างจากกลุ่มสามนิ้วบอก

ถ้าไม่สู้ก็จงอยู่อย่างทาส

“อย่าว่าแต่นักศึกษากลุ่มพวกนั้นเลย ข้าราชการตำรวจหลายคนคิดเช่นนั้นเหมือนกัน” เจ้าตัวเปรียบเทียบ

ดังนั้น ผู้บังคับบัญชา (บางคน) ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกมาแจงว่า พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือให้ตำรวจทุกหน่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว

ถ้าพบว่ามีพฤติกรรมไปในทางทุจริตฟันไม่เลี้ยง ทั้งทางวินัยและคดีอาญา 

เนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นความสำคัญของกำลังพล โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย

“ลำพังเงินเบี้ยเลี้ยงอาจจะดูไม่มากสำหรับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่มันคือปริมาณที่มากสำหรับตำรวจชั้นผู้น้อย โการทำงานในช่วงพิเศษตำรวจชั้นผู้น้อยต้องได้รับค่าตอบแทนเต็มที่ตามที่รัฐจัดให้” พล.ต.ต.ยิ่งยศว่า

 แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริง

 

RELATED ARTICLES