พิษยังไม่หยุดลาม

 

พิษบ่อนอิทธิพลชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกยังแพร่กระจายลุกลามไม่หยุด

หาใช่เชื้อวายร้ายไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์โควิด แต่เป็น “เก้าอี้นายพล” ที่ต้องติด “ร่างแห” ข้อหาบกพร่องละเลยในการปฏิบัติหน้าที่

เป็นเหตุให้มีบ่อนอบายมุขเกลื่อนเมือง

ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 21/2564 ให้ พล.ต.ต.ประกาศ พงษ์พานิช ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  ไปปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

มอบหมายให้ พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก รักษาการแทนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  อีกตำแหน่ง

เซ่นสังเวย “บ่อนหลงจู๊ชาย” เรียงแถวตาม พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  2พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พล.ต.ต.ประการ ประจง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด

ส่วน “บ่อนพนันดื้อแพ่ง” ในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่ง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม นำกำลังบุกทลายรวบ 41 ผีพนันท้าทาย “ไข้หวัดมรณะ” เข้าซังเตตอนกลางดึกวันที่ 14 มกราคม 2564

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง พ.ต.ท.พล พื้นพรม รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง พ.ต.ท.วรวุฒิ นุริตมนต์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง และ พ.ต.ต.สีน้ำ นิยมพลอย สารวัตร (สอบสวน) ปฏิบัติราชการแทนสารวัตรป้องกนปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1

ขาดจากตำแหน่งเดิมตามคาด

บ่อนการพนันเสมือน “ท่อน้ำเลี้ยง” ขององค์กรสีกากีชั่วโมงนี้กำลังกลายเป็น “ของแสลง” ทิ่มแทง “เก้าอี้ตำรวจ” อย่างหนีความรับผิดชอบไม่ได้

ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกาศให้เห็นการเอาจริงเอาจังของรัฐบาล

จ้องจัดการ “เอาผิดตำรวจ” ที่เข้าไปเอี่ยว “ธุรกิจสีเทา”

มี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการ ทีมงานประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับมอบหมาย รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ได้รับมอบหมาย จเรตำรวจที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมการปกครองที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ได้รับมอบหมาย

ให้รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่เลขานุการ นายจารุเดช บุญญสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

มอบอำนาจให้ตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเปิดสถานที่เล่นการพนันจนเป็นหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และประสานงานตลอดจนให้คำแนะนำการดำเนินการแก่เจ้าหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำผิด

ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด ๆ ก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษ

เสนอมาตรการป้องกัน หรือการดำเนินการอื่นที่เหมาะสม โดยให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และประสานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูล รวมทั้งการรับเรื่องร้องเรียนชี้ เบาะแสจากประชาชน

แล้วรายงาน “ทางลับ” ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการตามความจำเป็นหรือทุกรอบ 30 วัน

ถึงกระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังอดบ่นตัดพ้อไม่ได้

100 นายกฯก็แก้ปัญหาไม่ได้ หากไม่ร่วมมือกัน”

เหมือน “ฝันค้าง” อยู่กลางตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล

 

 

RELATED ARTICLES