หลังปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อตอนกลางดึก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปิดห้องคุยกันสองต่อสอง
ทั้งคู่หารืออะไรกัน ยังไม่มีคำตอบชัดเจน
เกมเดือดระอุใน “ทุ่งปทุมวัน” ลากเข้าสู่สนามอภิปรายซักฟอก “ผู้นำ” กลางห้องประชุมรัฐสภา กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าลุกไหม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั่งควบบังเหียน “กองทัพสีกากี”
“เล่นกับไฟระวังจะไหม้มือเอา” บางคนพูดถึงวลีอมตะของ มาลัย ชูพินิจ นักประพันธ์ชื่อก้องในวงการนักเขียนเมืองไทย
ความจริง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่แปลกใจอะไรกับหมากกระดานนี้สักเท่าไหร่ เจ้าตัวรู้ “ข้อสอบล่วงหน้า” ในคืนก่อนเวทีซักฟอกวันสุดท้ายจะเริ่มสะบัดน้ำลายท้าทายขั้วอำนาจ
เขาไม่แสดงความเห็น นอกจากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติของ “นาฬิกาแห่งกรรม”
ไม่มีใครดีที่สุด และไม่มีใครเลวที่สุด
มาตรวัดความดี ความเลว ความล้มเหลว หรือความสำเร็จของชีวิตใครเป็น “คนคิดสูตร”
เทวดาฟ้าดินเท่านั้นที่จะรู้แจ้งเห็นจริง
ทว่าบางคนยังดื้อดึงดันตะบันเสียงค้านว่า “เทวดาฟ้าดินไม่มีอยู่จริง”
เบื้องหน้าเบื้องหลังฉาก “ยำใหญ่” เครือข่ายอำนาจเหมือนประกาศสงครามยุทธหัตถี “ชิงบัลลังก์” ท้องทุ่งปทุมวันจากขบวนการที่สูญเสียผลประโยชน์มากมายมหาศาล จุดชนวน “มารดำ” ออกแรงอาละวาดกลับมาแก้แค้น
เป็นเดิมพันครั้งสำคัญ
“ที่นี่เลือกคน ไม่ใช่คนเลือกตำแหน่ง” ประโยคชัดเจนของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพสอบสวนกลางบอกถึงเจตนารมณ์ในการ “จัดขุนพล” เพื่อเป็นไม้เป็นมือขับเคลื่อนหน่วย
ไม่รับคนห่วย คิดแต่จะเข้ามารับส่วยเอาไปเปรอะเปื้อนเลอะติดอาร์มของสังกัด
บัญชีแต่งตั้งใน “หน่วยพิเศษ”ถูกคัดกรองคัดสรรบุคลากรอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม เกือบทุกคนต้องผ่านหลักสูตรยุทธวิธีหลากหลายเพื่อรองรับ “ภารกิจเหนือชีวิต” พร้อมตายเพื่อประเทศชาติและราชบัลลังก์
อย่าหวังวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งมาแย่งเก้าอี้
ที่สำคัญทุกคนต้องมีใจ “ใฝ่ธรรมะ” เพื่อเอาชนะกิเลสตัณหารอบกาย
ความเสียหายจากการแต่งตั้งโยกย้ายยุคของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เทียบกับหลายยุคที่ผ่านมา ภายในยุทธจักรสีกากีย่อมรู้กันดีว่า แบบไหนน่าเลื่อมใสศรัทธามากกว่ากัน
น่าเสียดายที่ “เดอะปั๊ด” ไม่ได้มีโอกาสจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายพลระลอกล่าสุด
ผลไม้พิษ ผลผลิตของ “เชื้อเน่า” ถึงกระจายไปทั่ว
อำนาจชั่ว “หน้ามืด-ตามัว” เสียกองผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายที่ถูก ย่อยสลาย หายไปในพริบตาจึงได้เวลาปั่นกระแสเอาคืน
ขืนปล่อยไว้มีหวังอดชิ้นปลามันกันยาว
กลายเป็นที่มาของ “เกมตัดขา” ชิงธงอำนาจสกัด พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึง พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ
บัญชี “ตั๋ว” ไหลผ่านถึงพรรคฝ่ายค้านเป็น “ฝีมือของใคร”
ใครที่เคยกำบัญชี ปู้ยี่ ปู้ยำ องค์กรตัวเองเมื่อหลายปีก่อน
และวัตถุประสงค์อันใดจงใจกล้าดึงฟ้าต่ำ
จับตาดูอิทธิฤทธิ์ของ “มารดำ” กับวิบากกรรมของ “ผู้พ่ายกลศึก”
