แรงบันดาลใจของนายตำรวจสาวคนหนึ่ง
เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผ่านการคัดเลือกไปอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นล่าสุดของกองบัญชาการศึกษา
ร.ต.อ.หญิง นิตยา ถูกใจ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ชาวจังหวัดพะเยา สายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพราะเป็นทายาท ร.ต.อ.อนันต์ ถูกใจ รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรงาว จังหวัดลำปาง
จบประถมศึกษาประชาบำรุง จังหวัดพะเยา ไปต่อมัธยมโรงเรียนพะเยาพิทยาคม ตัดสินใจสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นรุ่น 70 ก่อนบรรจุลงโรงพักแม่สอด
ใช้เวลากว่า 4 ปีทำสำนวนสอบสวนสารพัดคดีในพื้นที่ชายแดน
มั่นใจว่า ตัวเองมีดีพอจะเบนเข็มเปลี่ยนสายมาทำงานนอกเครื่องแบบ
งานท้าทายที่สามารถทำได้เหมือนผู้ชาย
เหตุผลในการอยากเป็นนักสืบ เจ้าตัวบอกว่า เริ่มแรกเนื่องจากเป็นตำรวจสายงานการสอบสวน
ผ่านงานด้านกฎหมายและระบบกระบวนการยุติธรรม เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ทำให้ทราบถึงกระบวนการหาพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงความผิดมาถึงคนร้ายรายนั้นสำคัญอย่างไร
“ผู้ที่จะรวบรวมพยานหลักฐานต้องมีความสามารถ หรือที่เรียกว่า นักสืบ และนักสืบนั้นไม่มีกฎตายตัวว่า ต้องเป็นใครถึงจะทำได้ ไม่ได้จำกัดเพศ เป็นเหตุให้เราอยากรู้ว่าวิธีการที่จะให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานนั้นได้มาอย่างไร และจะต้องทำอย่างไรให้เป็นนักสืบได้”
นิสัยส่วนตัวเธอยอมรับว่า ชอบดูหนังซีรีส์ที่เกี่ยวกับการสืบสวน ทำให้เกิดจินตนาการคิดภาพตามว่า จะสามารถรู้ได้อย่างไร ใครเป็นคนร้ายและจะหาพยานหลักฐานเพื่อนำมาใช้ลงโทษผู้กระทำความผิดได้จากอะไร
กระทั่งได้รับโอกาสจากนายตำรวจรุ่นพี่ตลอดจนผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ทำหน้าที่งานสืบสวน งานป้องกันปราบปรามยาเสพติด
สัมผัสแนวความคิดและค่านิยมในสังคมตำรวจส่วนใหญ่ยังไม่คิดว่าจะมีนักสืบผู้หญิงได้
ทั้งที่ในปัจจุบันการสืบสวนไม่ได้มีแค่ใช้กำลัง หรือแรงแค่อย่างเดียว เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน ทำให้เราสามาถใช้เทคนิควิธีการสืบสวนจากเทคโนโลยีได้ เช่น เฟซบุ๊ก และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
ประกอบกับผู้กระทำผิดไม่ได้มีแค่เพศชาย เพศใดเพศหนึ่ง บางครั้งการทำงานอาจจะต้องใช้นักสืบหญิง
“มันทำให้เราเกิดความคิดว่า สามารถเรียนรู้ ทำได้ นำเอามาเป็นแรงขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการอยากเป็นนักสืบหญิงเพื่อให้เป็นที่ยอมรับว่า เราทำได้เหมือนผู้ชาย”
ผู้กองสาวแห่งอำเภอแม่สอดยังนึกไปถึงเหตุการณ์การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นต่อผู้อื่น หรือประชาชน เป็นความสูญเสียของผู้เสียหาย หากวันหนึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดกับคนใกล้ตัวเรา คนที่เกี่ยวข้องกับเราจะรู้สึกอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดลอยนวลไปก่อเหตุกับใครอีก
“เราต้องตามจับกุมมาลงโทษให้ถูกตัว” นายร้อยตำรวจสาวคิดแบบนั้น
เหตุผลสุดท้ายที่อยากเป็นนักสืบ เธอย้ำว่า คือ ความชอบ ชอบรู้ชอบเห็น และคิดสงสัย ไม่เชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ท่ามกลางคำสบประมาทเสมอว่า ผู้หญิงไม่สามารถเป็นได้ เรียนรู้ไปก็เท่านั้น
เธอถึงอยากเอาชนะเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
การได้รับโอกาสให้มาอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา ได้รับการอบรมจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถือเป็นประสบการณ์และความโชคดีอย่างหนึ่งที่เธอได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ถ่ายทอดจากผู้ที่ได้ปฏิบัติงานจริง แลกเปลี่ยนความรู้จากเพื่อนในรุ่น เพื่อนำไปใช้ประกอบการทำงานในชีวิตจริง
“ตอกย้ำความตั้งใจเดิมที่เราตระหนักเสมอว่า สืบสวนไปเพื่ออะไร ก็คือ เพื่อประชาชนไม่ใช่หรือ” ร.ต.อ.หญิง นิตยาระบายความเห็น
เมื่อสังคมตำรวจเปิดโอกาสให้สวมบทนักสืบหญิงในอนาคต
