พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ 9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ และคณะทำงานตามโครงการตรวจโควิด-19 เชิงรุกสำหรับข้าราชการตำรวจ และครอบครัว ตลอดจนประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด -19 ของทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ และกำลังพลจิตอาสานำร่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยอดตรวจรวมถึงวันที่ 19สิงหาคม 2564 จำนวน 17,974 คน แยกเป็นตำรวจ 12,446 นาย ครอบครัวตำรวจ 4,320 คน ประชาชทั่วไป 1,208 คน พบติดเชื้อ
เป็นตำรวจ 73นาย ครอบครัว 145 คน และประชาชน 43 คน
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกถึงวัตถุประสงค์จัดทำโครงการตรวจโควิด-19 เชิงรุกสำหรับข้าราชการตำรวจ และครอบครัว เป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด อีกทั้งเสริมสร้างขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจและครอบครัวเพื่อการดูแลความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ถึงแม้ว่า อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวข้าราชการตำรวจไม่สามารถหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้จำเป็นต้องมีโครงการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK จัดทำระบบ Police Home Isolation ให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวในกรุงเทพมหานคร
“ สำนักงานตำรวจแห่งชาติพยายามแยกผู้ติดเชื้อออกมาให้มากที่สุดเพราะสายพันธุ์ใหม่ไม่แสดงอาการ กว่าจะมีอาการก็อาจสายเกิน เช่น เป็นไข้ เนื่องจากติดเชื้อมาหลายวันอาการแบบนี้ เป็นผู้ป่วยจากสีเหลือง เป็นสีส้ม และสีแดง จะต้องเข้าการรักษากับทางโรงพยาบาล แต่ติดขัดกรณีเตียงเต็ม หรือสถานที่ไม่มี การหาผู้ติดเชื้อให้เร็วสุดจึงเป็นการแก้ปัญหาลดการสูญเสีย พร้อมมีระบบ police home isolation และระบบการส่งต่อผู้ติดเชื้อไปรักษาทางการแพทย์ ระบบจะต้องเบ็ดเสร็จตรงนั้น หากตรวจพบเชื้อจะทำการ X-Ray ปอด และสามารถพบแพทย์ได้ทันที แพทย์วินิจฉัยจาก ฟิล์มเอกซเรย์พบจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ประสานไว้ล่วงหน้า” พล.ต.อ.สุวัฒน์อธิบาย
เจ้าตัวบอกว่า ถ้าดูอาการไม่มากให้เข้าโปรแกรม police home isolation โปรแกรม home isolation สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เหมือนหน่วยอื่น เราไม่มี คอลเซ็นเตอร์ เราใช้อยู่ 2 อย่าง คือ แอปพลิเคชันใช้สำหรับบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ผู้ป่วยจะกรอกข้อมูลเอง เช่น ข้อมูลการวัดไข้ ออกซิเจน การเต้นของหัวใจ อาการไอ เจ็บคอ กรอกทุกวัน/วันละ 3 เวลา หากพบความผิดปกติแพทย์จะติดต่อคนนั้น ถ้าติดต่อไม่ได้จะทำการติดต่อแบบไลน์กลุ่ม ผู้บังคับบัญชาจะไปดำเนินการ ไม่ยุ่งยาก ลดปริมาณการปฏิสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องคุยกับทุกคน มีผู้บังคับบัญชาดูแลผ่านไลน์กลุ่ม ไลน์กลุ่มจะใช้ผู้บังคับบัญชาคอยดูแล ถ้าติดต่อไม่ได้จะติดต่อผ่านผู้บังคับบัญชาในไลน์กลุ่ม ขณะเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังดำเนินการหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่เชิงรุกแบบใช้รถ หากทดสอบใช้งานได้ดีจะขยายไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ด้าน ร.ต.อ.หญิงธมน สุทธิชื่น รองสารวัตรฝ่ายภูมิภาค 1 กองการต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า การตรวจหาเชื้อโควิด19 เชิงรุกสำหรับข้าราชการตำรวจและครอบครัวดีมาก รวดเร็ว จัดเป็นระบบ เจ้าหน้าที่ใช้วาจาสุภาพ แนะนำดี เป็นขวัญและกำลังใจที่ดีมาก เพราะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับโรคนี้มาตลอด ส่วน ร.ต.อ.ก้องกิดากร ครามแสง รองสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับว่า เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะสถานการณ์โควิดแบบนี้ มีผู้บังคับบัญชาใส่ใจ และครอบครัวตำรวจได้มีโอกาสตรวจ
ขณะที่ ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รองสารวัตร (สอบสวน)สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นเผยว่า เป็นโครงการที่ดีมาก ตรวจฟรีและตรวจได้รวดเร็วรู้ผลทันทีไม่ต้องรอผล อยากให้มีอีกเพราะเป็นการเข้าถึงข้าราชการระดับผู้ปฏิบัติ ที่ไม่มีโอกาสไปตรวจ หากเป็นไปได้อยากให้ ตรวจเชิงรุกเช่นนี้กับแฟลตส่วนกลางทุกที่ ทุกโรงพักจะดีมาก มี นางศิริเพ็ญ ทิพย์ประเสริฐ อาชีพรับจ้างแสดงความรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่ใช้วาจาสุภาพ ใส่ใจผู้รับการตรวจดี อยากให้มีอีก รู้สึกดีกับโครงการของตำรวจว่าใส่ใจเรา
