สามเหลี่ยมดินแดง “แดนมิคสัญญี” กลางกรุงที่ยังคงคุกรุ่นยืดเยื้อมานานนับเดือน
สถานการณ์ป่วนเมืองปะทุรายวัน เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนกับผู้ชุมนุมที่พยายามปั่นกระแสสร้างความรุนแรงชวนทะเลาะกับ “ผู้ถือกฎหมาย” มากกว่าจะกระหายอุดมการณ์ประชาธิปไตยเหมือนผู้ชุมนุมกลุ่มอื่น
ตำรวจต้องปรับแผนรับมือตลอดเวลา พยายามคลี่คลายความเรียบร้อยให้เกิดความสงบ
เสียงปืน เสียงระเบิด ประทัดยักษ์ กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา พาเอาประชาชนชาวแฟลตดินแดงเอือมระอา แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้
กฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้เด็ดขาดกับกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมใช้กฎหมู่
ล่าสุด ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผู้บังคับหมู่กองร้อยที่ 5 กองกำกับการอารักขา 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนถูกยิงด้วยกระสุนเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ
ผู้ก่อเหตุจงใจ “เล็งเข้าหัว” ของสิบตำรวจตรีหนุ่มลูกครึ่งทะลุหมวกเลือดกระจาย
เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน พ่อเป็นชาวเบลเยี่ยมที่เกิดกับแม่ชาวไทย
“ลูกใฝ่ฝันที่จะรับราชการเป็นตำรวจมาโดยตลอด เพราะรักในอาชีพ รักชาติ ถึงแม้จะเป็นลูกครึ่งก็ตาม” นางมะลิวัลย์ เล็ทเทนสัน ผู้เป็นมารดาพูดถึงแรงบันดาลใจของลูกชาย
“รู้สึกเสียใจ และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่ลูกชายต้องมาถูกยิงในเหตุการณ์นี้”
เธอบอกด้วยว่า ตลอดการรับราชการตำรวจมาเกือบ 2 ปี ลูกมีนิสัยชอบช่วยเหลือสังคม ส่วนตัวแล้วภูมิใจในตัวลูกมาก
อีก 5 นาทีเที่ยงคืน เธอได้รับข่าวร้ายเมื่อเพื่อนลูกชายโทรมาบอก เล่นเอาทำอะไรไม่ถูก อ่อนแรงไปหมดช็อก
สิบตำรวจลูกครึ่งสูญเสียพ่อจากอาการป่วยกะทันหัน เขาถึงต้องรับบทหัวหน้าครอบครัวดูแลแม่บังเกิดเกล้า ท่ามกลางความเป็นห่วงของมารดา
“น้องเดวิดบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเขาระมัดระวัง แต่แม่ก็สวดมนต์ภาวนาให้น้องเดวิดปลอดภัย ฝากขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจห่วงใยลูกชาย”
อยากให้ทางตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
มารดาของ “หมู่เดวิด” ที่เพื่อนเรียกกันติดปากเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับมอบเงินสวัสดิการเบื้องต้นกว่า 6 แสนบาท ประกอบด้วย เงินสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เงินสวัสดิการกองบัญชาการตำรวจนครบาล เงินสงเคราะห์ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ และเงินส่วนตัวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
“พวกเราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สัญญาว่า อย่างไรเขาก็ยังรับราชการอยู่ เราไม่ทอดทิ้ง เขาจะอยู่กับเราจนเกษียณอายุราชการ ตามกฎเกณฑ์ของทางราชการ” พล.ต.อ.สุวัฒน์บอก “ถึงแม้ว่าในอนาคตเขาจะทำงานได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่ประเด็น เราดูแลกันตลอด แม่ไม่ต้องห่วง อยากให้สบายใจ คุณหมอทุกคนทุ่มเทดูแลให้ดีที่สุด”
ยืนยันว่า คนทำผิดยังไงต้องเอามาดำเนินคดีให้ได้
“สิ่งที่คนทำผิด เจตนาใช้ความรุนแรง ทำแบบนี้ไม่ได้” แม่ทัพสีกากีลั่นวาจา